×

ททท.ตาก ขอเชิญชวนมาเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป๑๐๐๐ดวง ระหว่างวันที่ ๒-๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

ททท.ตาก ขอเชิญชวนมาเที่ยวงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป๑๐๐๐ดวง ระหว่างวันที่ ๒-๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘

งานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ของจังหวัดตากเป็นงานประเพณีที่นำหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ภูมิปัญญาชาวบ้านและงานศิลปวัฒนธรรม มาหล่อหลอมรวมกันจนเกิดเป็นรูปแบบที่โดดเด่นได้มีการปฏิบัติสืบทอดต่อกันมาเป็นเวลายาวนานหลายชั่วอายุคนซึ่งจะแตกต่าง กับงานประเพณีลอยกระทงของจังหวัดอื่น เพราะส่วนประกอบของกระทงจะมีการนำ กะลามะพร้าว มาใช้เป็นส่วนใหญ่ เหตุที่มีการนำเอากะลามาเป็นส่วนประกอบนั้น เนื่องมาจากชาวเมืองตากมีการนำเอามะพร้าวมาแปรรูปทำเป็นอาหารว่างที่เรียกว่า “เมี่ยง” โดยถือเป็นอาหารว่างที่ชาวเมืองตากรับประทานเป็นประจำหลังอาหาร ซึ่งมีมะพร้าว ถั่วลิสง ใบเมี่ยงหมักเป็นส่วนประกอบหลัก นอกจากทำเพื่อรับประทานกันเองภายในครอบครัวแล้ว ยังมีการนำมาขายเป็นอาหารพื้นเมืองและได้รับความนิยมในภาคเหนือโดยทั่วไป กรรมาวิธีในการแปรรูปมะพร้าวเป็น “เมี่ยง” นั้น มีการขูดเอาเฉพาะเนื้อมะพร้าวมาทำ ส่วนกะลามะพร้าวจะถูกทิ้งไว้ในบริเวณบ้านเป็นจำนวนมากไม่มีการนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ครั้นถึงวันเพ็ญ เดือนสิบสอง (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินทางจันทรคติ) ประมาณ เดือนพฤศจิกายน ชาวบ้านจึงได้ทดลองนำกะลาด้านที่ไม่มีรูมาทำเป็นกระทง โดยเอากะลามาขัดถูจนสะอาดตกแต่งลวดลายสวยงาม ภายในกะลาใส่ด้ายดิบที่ฟั่นเป็น รูปตีนกา แล้วหล่อ เทียนขี้ผึ้ง ซึ่งนำมาจากเทียนจำนำพรรษาที่พระสงฆ์จุดเพื่อทำพิธีสวดมนต์ในโบสถ์วิหารตลอดสามเดือน หลังจากออกพรรษาชาวบ้านจะนำเทียนขี้ผึ้งเหล่านั้นมาหล่อใส่ในกะลา ซึ่งถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์และเป็น สิริมงคลแก่ผู้นำไปลอยก่อนที่จะปล่อยลงลอยในแม่น้ำปิงประกอบกับแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านจังหวัดตากจะเกิดสันทรายใต้น้ำ ทำให้เกิดเป็นร่องน้ำที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เมื่อนำกระทงกะลาลงลอย กระทงกะลาจะไหลไปตามร่องน้ำดังกล่าว ทำให้ดูเป็นสายอย่างต่อเนื่อง จนสุดสายตา ซึ่งไฟในกะลาจะส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องน้ำ

โดยเดิมทีก่อนที่จะมาเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง นั้นการนำเอากระทงกะลามาลอยเป็นสายจะเป็นเพียงการสาธิตการลอยเท่านั้น ซึ่งในระยะต่อมาได้มีการพัฒนาการลอยมาเป็นการแข่งขันกันอย่างยิ่งใหญ่ในปี พ.ศ. 2540 จนเป็นงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวงในปัจจุบันเป็นรูปแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของชาวจังหวัดตากที่ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะได้รับพระมหากรุณาชิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานถ้วยรางวัลในการแข่งขันเป็นประจำทุกปี

ความสำคัญของกระทงสาย

ประเพณีลอยกระทงสายจังหวัดตาก เป็นประเพณี ที่แสดงการคารวะแม่น้ำปิงของประชาชนจังหวัดตาก ซึ่งมีตำนานบอกเล่าต่อ ๆ กันมาว่าชาวบ้านลงเรือออกไปหาปลาในแม่น้ำปิงช่วงวันเดือนเพ็ญ เมื่อคิดถึงบ้าน จึงนำกะลาลอยอาหารผ่านสายน้ำปิง สู่คนที่บ้านซึ่งอยู่ท้ายน้ำ จึงสำนึกถึงบุญคุณของแม่น้ำสายนี้ที่เป็นทั้งแหล่งอาหารและนำพาความคิดถึงไปสู่คนทางบ้าน ต่อมาได้มีการพัฒนาการทำกระทงสาย โดยใช้กะลาบรรจุน้ำมันเทียน ลอยในแม่น้ำปิง เพื่อรำลึกและทดแทนพระคุณแม่น้ำปิงจนกลายเป็นกระทงสาย และมีการทอดผ้าป่าน้ำ คล้ายๆ การบังสุกุลกรวดน้ำ อุทิศบุญกุศล ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ผู้มีพระคุณ สืบทอดมาเกือบร้อยปี

ประเพณีลอยกระทงสายจึงเป็นความภาคภูมิใจของคนจังหวัดตาก ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก การลอยกะลาเทียน หรือประทีปซึ่งประกอบด้วยกระทงนำ กระทงตามและกระทงปิดท้าย จะเน้นความสามัคคี จังหวะ การลอยสายประทีปให้ต่อเนื่องและเป็นกลุ่ม หลังจาก ลอยกระทงนำหรือกระทงประธาน หรือกระทงทาน ซึ่งเป็นกระทงที่มีรูป เทียน ดอกไม้ เครื่องเส้นไหว้ แม่น้ำ ต่อด้วยกระทงตามจะมีจำนวนกระทงตามหรือประทีป มากน้อยเท่าไรขึ้นอยู่กับผู้ที่จะแสดงความเคารพ ไม่จำกัดจำนวนและต่อท้ายด้วยกระทงปิดท้าย

ดังนั้นประเพณีลอยกระทงสายจังหวัดตากเป็นประเพณีที่มีความสำคัญเหมาะสมในการนำมาพัฒนารายวิชาเลือก เพื่อนำมาใช้ในการการจัดการ ศึกษานอกระบบตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษา สาระการพัฒนาสังคม ซึ่งกำหนดให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณค่าและสืบทอดศาสนา วัฒนธรรมประเพณีเของท้องถิ่นและประเทศไทย

องค์ประกอบในการแบ่งขันการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง

1. กระทงนำ เป็นกระทงขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.50-2.50 เมตร ประดิษฐ์ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยใบตอง ดอกไม้สดที่เย็บเป็นรูปแบบต่างๆ แล้วจึงนำมาประกอบเป็นรูปกระทง ภายในกระทงต้องมีผ้าสบง เครื่องกระยาบวช หมากพลู ขนม สตางค์ รูปเทียน ฯลฯ ซึ่ง สิ่งเหล่านี้ได้ประยุกต์มาจากแพผ้าป่าน้ำในสมัยโบราณ

2. กระทงกะลา ใช้กะลามะพร้าวจำนวน 1,000 ใบ นำมาขัดถูให้สะอาด ทั้งภายในและภายนอก ตกแต่งลวดลายอย่างสวยงาม ภายในกะลาใส่ด้ายดิบ ที่ฟั่นเป็นรูปตีนกา แล้วหล่อด้วยเทียนขี้ผึ้งซึ่งนำมาจากเทียนจำนำพรรษา ชาวบ้านจะนำเทียนเหล่านั้นมาหลอมละลายด้วยความร้อนกล่อลงในกะลา ที่มีด้ายรูปตีนกาสำหรับเป็นเชื้อเพลิงจุดไฟก่อนที่จะปล่อยลงลอย

3. กระทงปิดท้าย มีลักษณะคล้ายกระทงนำแต่มีขนาดเล็กกว่า ประดิษฐ์ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยใบตองและดอกไม้สด ลอยปิดท้ายหลังจากลอยกระทงกะลาครบ 1,000 ใบ พร้อมทั้งมีสัญลักษณ์ให้ทราบว่าได้สิ้นสุดการลอยของสายกระทงนั้นแล้ว

4. การเชียร์ ในขณะที่ทำการลอยกระทงสายอยู่นั้นจะมีกองเชียร์ร่วม ร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนานครื้นเครง เป็นการให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทำการลอย เพลงที่นำมาร้องมีเนื้อหาสอดคล้องกับประเพณีไทยหรือวิถีชีวิตของชุมชน ดนตรีที่นำมาบรรเลงต้องใช้เครื่องดนตรีไทยทั้งหมดและจะต้องใช้กะลาเป็นส่วนประกอบของการแสดงอย่างน้อย 1 ชุด ซึ่งการแสดงทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที

ตำนานการฟั่นด้ายตีนกา

เหตุที่ต้องฟันด้ายดิบเป็นรูปตีนกานั้น มีตำนานเล่าขานจากผู้เฒ่าผู้แก่สีบทอดต่อกันมาว่าในอดีตกาลมีสามเณรน้อยผู้ชอบเที่ยวซุกชนอยู่รูปหนึ่ง มีนิสัยที่ชอบล่าสัตว์ ยิงนก ตกปลาเป็นประจำ วันหนึ่งเณรน้อยได้ยิงไก่ วัว เต่า และพญานาค ตาย จึงเกิดสำนึกในบาปที่ตนได้กระทำมาตลอด จึงได้อธิษฐานกับพวกไก่ วัว เต่า และพญานาค ว่าถ้าได้เกิดมาในชาติหน้าขอให้เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน

ณ ริมฝั่ง แม่น้ำคงคา มีต้นไทรอยู่ต้นหนึ่งเป็นที่อาศัยของกาเผือกสองตัวผัวเมีย ซึ่งได้ออกไข่มา ๕ฟอง อยู่มาวันหนึ่ง ขณะที่กาเผือกสองตัวผัวเมียออกเที่ยวหาอาหารอยู่นั้น ท้องฟ้ามืดครึ้ม มีลมพัดแรง ได้พัดเอาไข่ ๕ ฟอง ตกลงในแม่น้ำ แต่ไข่นั้นหาจมน้ำไม่ กลับลอยไปติดชายหาดแห่งหนึ่ง และไข่ทั้ง ๕ ฟอง ก็แตกออกมาเป็นเด็กทารก ๕ คน คือ เณรน้อย ไก่ เต่า วัว และพญานาคที่มาเกิดนั้นเอง ทารกทั้ง ๕ คน ก็พากันตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าตนทั้ง ๕ เป็นพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ก็ขอให้มีโอกาสพบ พ่อแม่ด้วยเถิด

ส่วนกาเผือกสองตัวผัวเมีย เมื่อตายลงไปเกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์จึงมาเข้าฝันทารกทั้ง ๕ คน ว่า ” หากเจ้าทั้ง ๕ คน อยากเห็นหน้าและระลึกถึงพ่อแม่ ก็จงฟั่นด้ายเป็นรูปตีนกา แล้วลอยแม่น้ำคงคาไป ” ต่อมาทารกทั้ง ๕ คน ก็ได้สำเร็จอรหันต์เป็นพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ด้วยเหตุนี้การลอยกระทงสายทุกครั้ง จึงมีการฟั่นด้ายเป็นรูปตีนกา เพื่อ บูชาแม่กาเผือกของพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ซึ่งเป็นงานประเพณีการลอยกระทงสายของจังหวัดตากไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง สืบมาจนทุกวัน นับเป็นการกระจายรายได้สู่จังหวัดตากต่อไป

Previous post

ตักบาตรพระร้อยทางเรือ ริมคลองลำปลาทิว วัดสุทธาโภชน์ สืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นอันดีงามยาวนานกว่า 100 ปี

Next post

“THX” รวมพลังคนป๊อปส่งต่อความสุข ในงาน “POP CHARITY MINI CONCERT” โชว์กิมมิกสุดคิ้วท์ อบอวลด้วยพลังบุญและรอยยิ้ม

You May Have Missed