บรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความคึกคักและเปี่ยมด้วยสีสันแห่งความสุข โดยมีการเดินขบวนพาเหรด 7 ขบวน ซึ่งแต่ละขบวนสื่อถึงแนวคิด 7 ประการ ได้แก่
- Born Again: เฉลิมฉลองการเกิดใหม่ของตัวตน
- Born to Be Loved (สีแดง): แสดงพลังความรักและสิทธิสมรสเท่าเทียม
- Born to Be Me (สีม่วง): สะท้อนพลังการรักและเป็นตัวของตัวเอง
- Born to Be Part of One (สีเขียว): เชื่อมโยงตัวตนกับสังคมและสิ่งแวดล้อม
- Born to Create & Inspire (สีเหลือง): ยกย่องพลังศิลปะและวัฒนธรรมของชุมชน LGBTQIAN+
- Born to Heal Generations (สีฟ้า): เน้นการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างเท่าเทียม
- Born to Be Together (สีชมพู): สะท้อนความร่วมมือจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อสังคมที่เท่าเทียม
ขบวนพาเหรดได้โบกสะบัดธงสีรุ้งที่ยาวที่สุดในประเทศไทยกว่า 200 เมตร โดยเริ่มต้นจากถนนพระราม 1 บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ยาวไปจนถึงแยกราชประสงค์ บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร

นอกจากขบวนพาเหรดแล้ว ภายในงานยังมีเวทีเสวนา “Bangkok Pride Forum 2025” งานฟอรั่ม LGBTQIAN ซึ่งเปิดพื้นที่ให้มีการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในหัวข้อสำคัญเกี่ยวกับสุขภาวะ LGBTQIAN+, เศรษฐกิจสีรุ้ง, เทคโนโลยี, สิ่งแวดล้อม, สิทธิมนุษยชน, การศึกษา และวัฒนธรรม โดยมีตัวแทนจากภาคประชาสังคม ภาครัฐ และภาคเอกชนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนเวทีใหญ่ใจกลางสยาม
ปีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ทำให้ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กฎหมายยอมรับความรักทุกรูปแบบและเห็นคุณค่าของทุกครอบครัว โดยสมรสเท่าเทียมถือเป็นประตูบานแรกสู่การสร้างความเท่าเทียมในมิติอื่นๆ

บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยสีสัน ความสนุกสนาน รอยยิ้มแห่งความสุขของผู้เข้าร่วมงานทุกคน และรอยยิ้มแห่งความประทับใจของนักท่องเที่ยวที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองความหลากหลายและความเท่าเทียมในครั้งนี้