คุยกับ “เกลน พาวเวลล์” ตัวจริงกับบทบาท “นักฆ่าน่าหลอก”ใน “HIT MAN”

คิดจะพัก-“เกลน พาวเวลล์” ถือเป็นนักแสดงชายมากความสามารถและเป็นที่น่าจับตาหลังจากมีผลงานสร้างชื่อออกมามากมาย แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักคือบทบาทของนักบินหนุ่มสุดฮอตในภาพยนตร์ “Top Gun: Maverick” (2022) ซึ่งเขาได้ประกบคู่กับนักแสดงมากฝีมือรุ่นเก๋า “ทอม ครูซ” และด้วยการฝึกฝนอย่างหนักจากการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ทำให้เขาได้รับใบอนุญาตเป็นนักบินเลยทีเดียว รวมถึงผลงานภาพยนตร์ประวัติศาสตร์มหากาพย์สงคราม “Devotion” (2022) ซึ่งเขารับบทเป็นวีรบุรุษกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่มีชีวิตอยู่จริง การถ่ายทอดบทบาทการเสียสละของนักบินทำให้เขาถูกพูดถึงและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เขาได้รับรางวัล Male Star of Tomorrow Award จาก CinemaCon เมื่อปี 2022 หลังจากได้รับเกียรติให้เป็น 1 ใน 10 นักแสดงน่าจับตาของ Varity เมื่อปี 2019 นอกจากนี้ยังได้ร่วมถ่ายแบบกับนิตยสารชั้นนำต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Vanity Fair, The Hollywood Reporter และ GQ

ล่าสุด เขาพลิกบทบาทครั้งใหญ่ขึ้นแท่นโปรดิวเซอร์และแสดงนำในหนังแอ็กชันคอมเมดี้ “HIT MAN นักฆ่าน่าหลอก” รวมถึงร่วมเขียนบทกับ “ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์” ผู้กำกับชื่อดังที่เคยสร้างผลงานคุณภาพขึ้นหิ้งอย่าง “Before Sunrise” (1995), “Before Sunset” (2004), “Before Midnight” (2013) และ “Boyhood” (2014)

“HIT MAN นักฆ่าน่าหลอก” เล่าเรื่องราวสุดป่วนของ “แกรี จอห์นสัน” (เกลน พาวเวลล์) ศาสตราจารย์สาขาปรัชญา หนุ่มเฉิ่มที่ชอบทำกิจกรรมแสนจะเบสิกในชีวิตประจำวัน แต่วันหนึ่งเขาต้องตกกระไดพลอยโจนถูกบีบให้ปลอมเป็นนักฆ่ามือพระกาฬที่ชื่อ “รอน” ซึ่งมีบุคลิกตรงข้ามกับเขาอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งเขาได้เจอกับ “เมดิสัน มาสเตอร์ส” (เอเดรีย อาร์โจนา) สาวสวยที่โดนสามีทำร้าย เธอมาขอให้รอนจัดการสามีของเธอ รอนเมินกฎนักฆ่าทุกข้อเพื่อช่วยเหลือเมดิสัน โดยระหว่างปฏิบัตภารกิจนั้นความสัมพันธ์ลึกซึ้งจากความรู้สึกจริงๆ ก็ก่อตัวขึ้นท่ามกลางแผนการสุดวายป่วงของนักฆ่าหลอกๆ แกรีต้องเสี่ยงอันตรายมากขึ้นทุกทีเมื่อเขาถลำลึกเข้าสู่โลกนอกกฎหมายจนอาจสายเกินถอนตัว

คุณมีความรู้สึกอย่างไรกับ “แกรี จอห์นสัน” หลังจากที่คุณได้อ่านบทความใน Texas Monthly

บทความนั้นเขียนไว้นานมากแล้ว และมีหลายคนพยายามจะนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ แต่ไม่มีใครสามารถทำให้ออกมาดีได้ ถ้าคุณได้บทความนั้น สิ่งที่จะเห็นได้ชัดที่สุดคือการที่ผู้ชายคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยแพสชัน แต่กลับยึดติดกับวิถีทางของตัวเองมากเกินไป เขาเป็นคนที่มีความซับซ้อน เขากำลังเผชิญวิกฤตทางอารมณ์ขั้นรุนแรงที่สุดในสภาวะที่ยังควบคุมได้และเป็นตัวละครที่มีความน่าสนใจมาก 

มีบรรทัดหนึ่งช่วงท้ายบทความของแกรีที่บอกว่าเขาได้พบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งพยายามจะฆ่าสามีของตัวเอง แต่เขายังเห็นความเป็นมนุษย์ในตัวเธอ เขามองคนตรงหน้าและและคิดว่า “เธอเป็นแค่เป็นเหยื่อของสถานการณ์ ฉันอยากช่วยให้เธอผ่านช่วงเวลานี้ไปได้” คนที่ปลอมเป็นคนอื่นกลับพบสัจธรรมที่แท้จริงข้างใน ความสัมพันธ์ตรงนี้จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญของภาพยนตร์ทั้งเรื่อง

ในฐานะนักแสดงคุณสนใจอะไรมากที่สุดในตัวละคร “แกรี จอห์นสัน”

สิ่งที่ดึงดูดผมเข้าหาตัวละคร “แกรี จอห์นสัน” คือเขาทำให้ผมนึกถึงด้านที่ดีสุดของผู้กำกับ “ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์” เขาเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสนุก ไม่มีทางเบื่อ เขามีหลายด้านในตัวที่ดูเหมือนจะขัดแย้งกันแต่กลับรวมอยู่ในตัวคนคนเดียวกัน เขาเป็นทั้งนักวิชาการและนักกีฬา บางครั้งเขาต้องการความเป็นส่วนตัว แต่บางครั้งเขาก็ชอบเข้าสังคมมาก เขาเป็นนักทำหนังที่เก่งรอบด้าน เขาทำหนังออกมาได้ดีทุกแนว พิสูจน์ฝีมือให้โลกได้เห็นมาเป็นเวลานาน เขาไม่เคยทำอะไรซ้ำซากจำเจ ไม่เคยกลัว พร้อมสำรวจด้านใหม่ๆ ของตัวเองเสมอ และที่สำคัญไม่มีใครเข้าใจธรรมชาติที่ซับซ้อนของมนุษย์ได้ดีเท่าเขา เขามีมุมมองที่ไม่เหมือนผู้กำกับคนไหนที่ผมเคยร่วมงานด้วยมาก่อน

ดังนั้นการถ่ายทอดบทบาทในตัวละครแกรีที่ผมเล่นจึงสนุกมาก เพราะมันเหมือนผมได้เล่นตัวละครหลายตัวไปพร้อมกัน เขาเป็นหนุ่มจืดธรรมดา แต่จ็อบพิเศษนี้เปิดโอกาสให้เขาได้ลองเป็นคนใหม่ มันชวนสับสนเหมือนกันนะ แต่นั่นทำให้เขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ผมลองแต่งเป็นตัวละครเหล่านี้ใช้ชีวิตประจำวัน ลองว่าอันไหนเวิร์ก-ไม่เวิร์ก การหาจุดที่ลงตัวของแกรีและรอนมันสนุกมาก 

คุณและ “ริก” (ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์) ทำการรวบรวมข้อมูลอย่างไรบ้างเพื่อสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา

“แกรี จอห์นสัน” ตัวจริงเป็นแหล่งของข้อมูลหลักของหนังเรื่องนี้ ริกและผมนั่งอ่านบันทึกคดีที่ทางตำรวจบันทึกไว้เป็นสิบๆ ปี จากการที่แกรีสวมบทเป็น “นักฆ่าตัวปลอม” ไปพบลูกค้าตัวจริง เขาสวมบทได้น่าประทับใจมาก ปกติแล้วเมื่อคนเห็นเขาในชีวิต เขามักจะถูกมองข้ามไปเลย ไม่มีใครสังเกตเห็นเขาอยู่ในห้องด้วยซ้ำ เขาเก่งเรื่องทำให้ตัวเองเหมือนไม่มีตัวตน แต่เมื่อใดที่เขาสวมบทบาทเป็น “นักฆ่า” ผู้ที่อยู่ปลายสายไม่มีทางเชื่อแน่เลยว่าตัวจริงของคนที่พวกเขาคุยด้วยเป็นใคร เราได้ฟังเทปที่บันทึกไว้บางส่วน ซึ่งนั่นไม่ใช่แกรีแม้แต่น้อย มันเป็นที่มาของคำถามที่น่าสนใจที่สุด ตัวจริงเขาคือใครกันแน่ และเขารอดมาได้ยังไง

ทำไม “ริก” ถึงเป็นตัวเลือกแรกของคุณให้มากำกับหนังเรื่องนี้

ผมกับ “ริก” เป็นคนบ้านเดียวกัน เรามาจากออสติน เท็กซัส เราร่วมงานกันตั้งแต่ผมอายุประมาณ 14 หรือ 15 ปี เราทำงานด้วยกันครั้งแรกใน “Fast Food Nation” (2006) จากนั้นก็ได้ร่วมงานกันอีกใน “Everybody Wants Some!!” (2016) และ “Apollo 10 ½: A Space Age Childhood” (2022) ผมคิดว่าริกมองผมเป็นคนที่มีศักยภาพ เพราะเขาชอบทำงานกับนักแสดงหน้าเดิมๆ ที่เคยร่วมงานกับเขามาแล้ว เขาเป็นผู้กำกับประเภทที่เปิดพื้นที่ให้นักนักแสดงทุกคนได้เฉิดฉาย ฝากฝีมือได้เต็มที่ในผลงานของเขา ไม่มีผู้กำกับคนไหนบนโลกที่เข้าใจรายละเอียดในการแสดงได้ดีไปกว่าเขา เขารู้ว่าการปรับเพียงเล็กน้อยสามารถส่งผลเวลาอยู่หน้ากล้องขนาดไหน หนังทุกเรื่องของเขาสะท้อนชีวิตจริง มันสมจริง เขาไม่เคยยัดเยียดอะไรให้ผู้ชม ผลงานของเขาล้วนขึ้นหิ้ง ไม่เก่าไปตามเวลา เพราะมันมีความจริงใจไม่ปรุงแต่งจนเกินไป ริกและผมตั้งใจเขียนเรื่องราวสุดสมจริงเกี่ยวกับการตามหาตัวตนและแพสชัน โดยให้ตัวละครหลักของเราเป็นศูนย์กลาง

นี่ถือเป็นครั้งแรกที่คุณได้เขียนบทภาพยนตร์หรือไม่

ผมเคยเขียนบทขายมาก่อน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เอาบทที่ตัวเองเขียนมาทำเป็นหนัง ซึ่งมันเจ๋งมากที่ได้ร่วมทำมันกับฮีโร่ในดวงใจของผม การที่ชื่อของผมขึ้นคู่กับชื่อ “ริชาร์ด ลิงก์เลเตอร์” ในเครดิต มันเหมือนฝันที่เป็นจริงของผม

การทำงานร่วมกับนักแสดงสาว “เอเดรีย อาร์โจนา”

 “เอเดรีย อาร์โจนา” เป็นคนน่ารัก เป็นนักแสดงที่สวยโดดเด่นกว่าใคร เธอทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายและสนุก ผมมีความสุขมากที่ได้ทำงานกับเธอในทุกๆ วัน ตอนที่ได้นั่งคุยกับเอเดรียครั้งแรกรู้สึกเหมือนผมไปออกเดตครั้งแรก มันเหมือนผมรู้จักเธอมานาน ผมเชื่อว่าเธอจะทำให้คุณอยากเอาใจช่วยเธอเสมอ เรารู้ว่าผู้ชมจะเอาใจช่วย “เมดิสัน มาสเตอร์ส” แม้เธอจะสร้างเรื่องไว้มากมาย พวกเขาจะเชียร์ให้เธอค้นพบเส้นทางที่แท้จริงของตัวเอง เราไม่เคยต้องการให้เมดิสันติดกับกรอบเดิมๆ และไม่อยากให้เธอออกมาดูเป็นกระดังงาลนไฟ มันกลายเป็นแบบนั้นได้ง่ายมาก แต่เอเดรียมอบมิติที่ลึกซึ้งให้ตัวละครนี้ เธอไม่กลัวที่จะถูกเกลียด เธอเชื่อสัญชาตญาณตัวเองและใช้มันเอาชนะใจผู้ชม เธอไว้ใจฝีมือตัวเอง ไว้ใจ “ริก” ในฐานะผู้กำกับ และเชื่อมั่นในบท สิ่งที่เธอมอบให้ตัวละครเมดิสันมันเกินกว่าที่ผมคิดไว้จริงๆ ท้ายที่สุดมันก็คือจินตนาการที่เราเติมแต่งลงไป ผมอยากให้ผู้ชมอินกับโลกจินตนาการนั้น เราสร้างหนังที่ไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่ยังเซ็กซี่และน่าตื่นเต้น หนังเรื่องนี้มีครบทุกรสชาติ 

เตรียมพบกับผลงานรอมคอมรีวิวเยี่ยมพร้อมกับสุดยอดการแสดงของ “เกลน พาวเวลล์” ที่คุณจะต้องยกให้เขาเป็น “เจ้าพ่อหนังรอมคอมแห่งยุค” ใน “HIT MAN นักฆ่าน่าหลอก” 13 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์