คิดจะคุย|วสันต์ วณิชชากร | ช่างภาพคนนี้ มีดี มากกว่า กดชัตเตอร์

วันนี้เรามีนัดคุย กับช่างภาพหนุ่มหล่อคนหนึ่งที่ เรียกตัวเองว่า ช่างภาพบ้านนอก แต่ผลงานระดับโลก วสันต์ วณิชชากร  เขามาพร้อมกับกล้องข้างกาย

 

ต้องมีกล้องติดตัวตลอดเวลาหรือ ?

“ก็ไม่ตลอดเวลาหรอกครับ แต่เผื่อไว้ก็ดีครับพี่ เผื่อมีเหตุการณ์อะไรน่าสนใจก็สามารถเก็บภาพได้ครับ แต่ถ้าไปงานที่เป็นทางการหรือเรื่องสำคัญก็ไม่ได้เอาไปครับ”

มีกล้องเยอะไหม ?

 “ส่วนใหญ่จะมีกล้องที่ใช้ประจำตัวมีอยู่สามตัว ก็แล้วแต่ขนาดงานว่าจะเลือกใช้ตัวไหนบ้าง”

เป็นไงมาไงถึงมาเป็นช่างภาพครับ เล่าให้ฟังหน่อย ?

“ตอนเรียนมีวิชาถ่ายภาพ พอได้เรียนก็ชอบ จบออกมาก็มาสมัครเป็นช่างภาพที่หนังสือพิมพ์ THE NATION เพราะเพื่อนที่เคยมาฝึกงานด้วยกันที่นี่แนะนำไว้ให้ พอทางเนชั่นขาดคนเขาเลยโทรมาเรียกตัวให้ไปทดลองงาน”

ชีวิตช่างภาพเหนื่อยไหม ค่าตอบแทนเป็นไงบ้าง ?

“ผมว่าค่าตอบแทนช่างภาพในสมัยนี้ดีกว่าสมัยก่อนมากครับ โดยเฉพาะช่างภาพที่มีประสบการณ์ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้มันก็เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกกับงานที่เรารัก”

 

ใครเป็นไอดอลของคุณ สำหรับวงการนี้ ?

“มีหลายคนครับ คนแรกคือ พี่รูญ – จรูญ ทองนวล ช่างภาพรุ่นพี่จากเดอะเนชั่น คนนี้ผมเห็นงานและตามงานทางหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นตั้งแต่สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ คนที่สองคือ พี่เจา – ทวีชัย เจาวัฒนา อดีตบรรณาธิการภาพเครือเดอะเนชั่น อีกสองคนคือ พี่เฉ่า(ศักดิ์ชัย) และพี่อภิชาติ สองหัวหน้าผมที่สำนักข่าวเอพี พี่ๆ เหล่านี้คือคนที่คอยบอก คอยสอน และให้โอกาสตลอดเวลา”

ไดัข่าวว่ามีกลุ่มไถ่ชีวิตสัตว์ด้วย มันเป็นยังไงช่วยอธิบายหน่อย ?

“มันเป็นควายที่ดิ้นหลุดออกมาจากโรงฆ่าสัตว์ในคอกสัตว์แห่งหนึ่งแถวบ้าน มีครูมาบอกว่าให้ช่วยโพสหาเงินช่วยมันหน่อย ตั้งชื่อให้มันว่า บุญช่วย ผมเลยไปดูและถ่ายภาพบุญช่วยมาโพส พอได้เงินก็เอาเงินไปไถ่ชีวิตมันออกมาจากโรงฆ่าสัตว์เจ้าของชีวิตมัน แต่พอไปถึงเห็นควายในคอกที่มองตาละห้อย สายตาเรียกร้องของชีวิตให้พวกมันด้วย ก็เลยถ่ายภาพแววตาเหล่านั้นออกมา เพื่อนำมาโพสหาเงินไปช่วยพวกมันด้วย

 

พอได้เงินก็ไปไถ่พวกมันออกมาอีก และก็ไปเห็นแววตาแบบนี้อีกในคอกข้างๆ ก็ถ่ายภาพอารมณ์ในแววตานี้ออกมาโพสอีก ได้เงินก็ไปไถ่ออกมา ทำแบบนี้อีกหลายครั้ง จนไถ่วัวควายในโรงฆ่าสัตว์นั้นได้หมดทั้งคอกรวม 48 ชีวิต ใช้เงินไปหนึ่งล้านหกแสนกว่า อีกสองแสนกว่าบาทใช้ในการร่วมสร้างโรงเลี้ยงที่วัดสมานและเป็นค่าอาหารและค่ารถในช่วงหนึ่งเดือนกว่าที่เราเข้าออกโรงฆ่าสัตว์เพื่อไถ่ชีวิตพวกมันและถ่ายภาพชีวิตที่กำลังรอความตายนั้นออกมา ภาพเหล่านี้ทรงพลังมากมายเมื่อนำมาโพส มันหาเงินได้ถึงหนึ่งล้านแปดแสนบาทภายในเดือนกว่าๆ”  

 

แสดงว่าเป็นคนรักสัตว์ ?

 “ก็รักเท่าที่รักได้”

 

ไหนเล่าเรื่องหมา 7-11 ให้ฟังหน่อย ? … เรียวโกะ และเหลือขอ … ชื่อหมาน่ารักจัง !

“ปู่ ย่า ตา ยายเขาเป็นหมาจร ให้ข้าวให้อาหารมาทุกรุ่น แม่ลาย ขาวน้อยตัวที่หนึ่ง เปาเฉลิม ขาวน้อยตัวที่สอง  เรียวโกะเป็นรุ่นที่สี่ที่ห้าแล้ว เหลือขอเป็นลูกของเรียวโกะ พวกมันน่ารักรอเรากลับบ้าน วิ่งตามส่งตามรับทุกวัน คอยเฝ้ารถ เฝ้าร้านให้เรา ไม่เหมือนหมาจรทั่วไป ทุกรุ่นมันจะมาออกลูกอยู่แถวร้าน บางตัวมาออกในร้านเลย เหลือขอก็ออกในร้าน มันชื่อเหลือขอ เพราะว่าตัวอื่นโดนขอไปเลี้ยงหมด ยกเว้นมันเลยได้ชื่อนี้มา”

 

ฝนตกน้ำท่วมเห็นคุณออกไปช่วยชาวบ้าน ตกลงเป็นอาสากู้ภัยดว้ยเหรอ ?

“ก็พอดีเห็นภาพข่าวชาวบ้านเขากำลังประสบภัย เดือดร้อน บางภาพมันสะเทือนใจจนเราอยากที่จะใช้โอกาสที่เรามี พอหาได้ ก็เลยอยากไปช่วยพวกเขา โดยการทำเสื้อขายหาเงินซื้อเรือ ข้าวสาร อาหารสัตว์ ขับเรือออกไปช่วยพวกเขาในที่ๆ เข้าถึงยาก พวกเรามีแนวคิดว่าเราจะแจกจากข้างในออกมาข้างนอก และครึ่งหนึ่งเป็นอาหารหมาแมว เพราะอาหารคนมีคนแจกให้เยอะแล้ว พวกเราออกช่วยน้ำท่วมแบบนี้มาสองครั้งแล้ว ในปี 2554 ตอนน้ำท่วมใหญ่ และในปี 2556 น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งสองครั้งที่เราไปช่วยเหลือชาวบ้าน สัตว์ หมา แมว เราก็จะถ่ายภาพมาแล้วโพสบอกว่าสิ่งของเงินทองที่คนส่งมาให้เราเพื่อเป็นตัวกลางส่งผ่านไปยังผู้เดือดร้อน หมา แมว พวกเขาได้รับแล้วนะ แล้วภาพเหล่านี้มันก็จะทำงานของมันในการสื่อสารถึงคนอื่นๆ ที่อยากจะช่วย ทำให้ในแต่ละครั้งที่เราออกไปช่วย แล้วนำมาโพส เราก็จะได้เงินบริจาค ข้าวของ อาหารสัตว์ มากองรอในอาทิตย์ต่อมาอีกมากมาย สิ่งเหล่านี้เกิดจากพลังของภาพถ่ายและความตั้งใจของพวกเราเอง”

 

ตกลงวันหนึ่งของคุณมีกี่ชั่วโมงกันแน่ ?

“เวลาของผมหรอ บางวันก็มี 24 ชั่วโมง ทำงานไม่ได้นอน บางวันก็มี สี่ห้าชั่วโมง เพราะนอน 20 ชั่วโมง …๕๕๕”

ภาพเหตุการ์ณสำคัญๆ ก็เห็นคุณอยู่ในเหตุการณ์ตลอดและได้ภาพดีออกมานำเสนอ มันเกิดขึ้นได้ ยังไง ?… ตั้งแต่ม็อบ งานพระราชพิธีต่างๆ …

“ผมแค่มีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างสูง เดินให้มาก มองให้มาก คิดให้มาก และอดทนให้มาก”

มีคนกล่าวว่ากระบี่อยู่ที่ใจ ส่วนตัวคิดว่าฝีมือกับอุปกรณ์อันไหนสำคัญกว่า ?

“ส่วนตัวผมคิดว่าคนหลังกล้องสำคัญที่สุด ถึงสถานการณ์คับขันยากต่อการได้ภาพ อุปกรณ์จะเป็นตัวชี้วัดว่าใครจะได้ภาพในขณะที่ทุกอย่างเท่ากัน  แต่ก่อนหน้านั้น ภาพยากๆ ทั้งหลายที่เกิดขึ้นมาในโลกก็มาจากกล้องธรรมดาซึ่งมีให้เห็นกันอยู่มากมาย”

คราวนี้มาถึงเรื่องเบาๆ กันบ้าง ไลฟ์สไตล์ชีวิตเป็นไง ? …ดูหนัง ฟังเพลง ท่องเที่ยว …

“ฟังเพลงเกือบทุกแนว ท่องเที่ยวแนวผจญภัย สถานที่ชอบไป คือ ประเทศอินเดีย เนปาล เพราะถ่ายภาพสวยชอบออกกำลังกาย ชอบเตะฟุตซอล และวิ่งมาราธอน”

ได้ข่าวชอบปืนเขาเหรอ ? … ไปที่ไหนบ้าง ไปมากี่ครั้ง ?

“ใช่ครับ  …ไปหลายที่ครับ แต่ที่ดังๆ และเป็นที่รู้จักกันก็คือ ABC, EBC ในประเทศเนปาล, แคสเมียร ในประเทศปากีสถาน”

 

รถล่ะ เห็นมีรูปคู่รถเต่า … เป็นรถที่ใช้ประจำหรือป่าว ?

“เป็นรถคันที่สามครับ ใช้ขับเล่นในวันที่สบายๆ”

ได้มายังครับ รถเต่าคันนี้ ?

“ชื้อมาครับ ราคาประมาณ 1 แสนกว่าบาทครับ แต่ซ่อมไป สามแสนกว่าครับ”

โอ้…ทำไมค่าซ่อมแพงกว่าค่าตัวรถอีก ?

“รถเต่าคันนี้เป็นรถรุ่น 1967เป็นรถรุ่นพิเศษที่คนนิยมแต่ผลิตออกมาน้อยครับ หลังคามีซันรูฟ แต่รุ่นนี้อะไหล่แพง และหายากมากๆ เลยทำให้ค่าซ่อมแพงเอาเรื่องเลยครับ”

 

บทสรุป ข่าวลือว่าจะอำลา วางกล้องถอดเลนส์ ไปเป็นเถ้าแก่โรงสีจริงมั้ย ?

“ตอนนี้ก็เข้ามานั่งทำงานในโรงสีแล้วครับ แต่คงยังไม่อำลากล้อง ก็คงยังถ่ายอยู่บ้าง แต่คงไม่มากเหมือนเมื่อก่อน”

จะเป็นช่างภาพไปถึงเมื่อไหร่ ?

“เป็นไปจนตาย”

 

นิยามของการเป็นช่างภาพที่ดี ของวสันต์คืออะไร ?

“มุ่งมั่น รับผิดชอบ”

ให้ข้อคิด คำแนะนำ สำหรับคนที่จะก้าวมาจับกล้องเป็นอาชีพหลัก ?

“ต้องมั่นใจว่าเรามีดีพอที่จะอยู่หลังกล้องได้นานอย่างที่เราต้องการ”

 

แม้ว่าเรามีคำถามอีกมากมายแต่ยังไงการสนทนาที่ไม่อยากให้จบ ก็สิ้นสุดลง

วสันต์ วณิชชากร ช่างภาพหนุ่มที่ชอบใช้ชื่อช่างภาพบ้านนอก แต่บอกได้เลยว่า ฝีมือเขาอยู่แถวหน้าของช่างภาพในเมืองไทย ไม่ได้มีมือแค่ไว้กดชัตเตอร์ แต่ยังมีจิตใจที่โอบอ้อมอารี ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสัตว์ทุกข์ยาก ไว้เจอตัวเป็นเป็น แล้วคุณจะหลงใหลไปกับความน่ารักและมากน้ำใจของเขา

 

——————————

วสันต์ วณิชชากร

การศึกษา

  • Bangkok University : นิเทศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์

การทำงาน 

  •  15 มีนาคม 2018 – ปัจจุบัน : โรงสีไทยวัฒนารุ่งเรืองธัญกิจ อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี
  •  2005 – ปัจจุบัน : Stringer Photographer สำนักข่าว AP
  •  1998 – ปัจจุบัน : photographer & graphic art & printing & digital lab ช่างภาพบ้านนอก
  •  อดีต : Photojournalist/Photographer  The Nation Newspaper

 

ผู้ชายหมายเลข7 มองโลกผ่านวิวไฟน์เดอร์ เจ้าของผลงานช่างภาพข่าวยอดเยี่ยม3รางวัล คลุกคลีกับวงการสื่อมามากกว่า30ปี