เทคนิค การจอง ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ราคาถูก

หลายคน คิดจะพัก เที่ยวญี่ปุ่น สำหรับคนที่ไม่เคยไปแล้วละก็ มีคำถามเกิดขึ้นในใจ อยากไปเที่ยวต้องทำอย่างไรบ้าง ส่วนอีกหลายคนเคยไปเที่ยวกับทัวร์ แต่ไม่สะใจ อยากไปเที่ยวด้วยตนเอง จะมีวิธีไหนที่ค่าใช้จ่ายไม่บานปลาย ราคาไม่แพงมาก และจะต้องจองตั๋วเครื่องบินอย่างไรให้ได้ราคาถูก จะจองโรงแรมด้วยวิธีไหนดี จองโดยตรงกับโรงแรม หรือผ่านเอเจนซี่ ที่ราคาไม่แพง วันนี้ลองอ่านเรื่องเล่าของเราดูค่ะ แล้วลองไปปรับใช้ในทริปของตัวเอง ให้ถูกใจที่สุด เพื่องบไม่บานปลาย

สำหรับคนที่ยังไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นเลย เที่ยวครั้งแรก ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ไม่อยาก งง หลงทาง แนะนำว่าน่าจะลองไปเที่ยวกับทัวร์ก่อนสักครั้ง เพราะข้อดีของการไปกับทัวร์มีหลายอย่าง ข้อด้อยใช่ว่าจะไม่มี แต่อย่าใส่ใจเปลี่ยนเป็นข้อดีได้ ก็สบายใจ

โปรแกรมทัวร์มีมากมายให้เลือก แต่ว่าบริษัททัวร์ไหนดีล่ะ จะเชื่อใจได้ไหม โดยเฉพาะทริปราคาถูก ต้องดูให้ดี เปรียบเทียบหลายๆ ทัวร์ (4-5 บริษัท) โดยการหาข้อมูลจากเว็ปไซต์ อ่านรีวิวเยอะๆ ถ้าสรุปได้แล้วว่าไม่น่าจะถูกเท ถูกทิ้ง ! ก็เลือกเลยค่ะ ติดต่อไปที่บริษัททัวร์ จะด้วยวิธีไหน อย่างไร ก็ว่ากันไป สำหรับเรานั้น เราติดต่อทางเมล โอนเงินเข้าบัญชี ส่งสำเนาพาสปอร์ต แจ้งเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติมเรื่องอาหาร แพ้อาหารอะไร บอกไปเพื่อเขาจะได้จัดอาหารสำหรับเรา เจอกันอีกทีก็สนามบินในวันเดินทาง

วันนี้จะเล่าประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่นตั้งแต่เที่ยวกับทัวร์ และเที่ยวด้วยตนเอง เพื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่คิดจะเที่ยวญี่ปุ่น นำไปปรับใช้กับสไตล์การท่องเที่ยวของแต่ละคน 

ครั้งแรก ปี 2557 เที่ยวกับทัวร์ (ประสบการณ์ดีๆ ที่ชอบ)

 

 

  • ความสะดวกสบายเริ่มตั้งแต่สนามบิน เพียงเราแค่ยื่นพาสปอร์ตให้ไกด์ จากนั้นไกด์จะแนะนำ และทำให้ เรารอโหลดกระเป๋า ผ่าน ตม. ทั้งในไทย และญี่ปุ่น กรอกเอกสารเข้าเมืองตามที่ไกด์บอก ไม่ต้องคิดอะไรมาก ทำตามไป (แต่จำเอาไว้ ถ่ายรูปเก็บไว้ยิ่งดี ปีหน้าเราจะไปเอง)
  • ถึงญี่ปุ่นมีรถบัสรอรับด้านหน้าสนามบิน เพียงแค่ลากกระเป๋าไปถึงรถก็ไม่ต้องทำอะไร คนขับจับเข้าใต้ท้องรถให้เรียบร้อย … เราเดินทางถึงสนามบินนาริตะเช้า ไกด์พาเที่ยวทั้งวัน ตกเย็น(ค่ำ)ก็เข้าที่พัก เช้ามาก็มีโทรศัพท์ปลุกให้ตื่น กินข้าวเช้าเสร็จ ก็เดินทางตะลอนเที่ยวกันอีกวัน ในแต่ละสถานที่มีเวลาไม่มาก (ยังไม่อยากไปต่อ ก็ไม่ได้) เป็นอย่างนี้จนจบทริป แต่ว่าวันฟรีเดย์นี่สิ ชอบมาก !  อยากอยู่ที่ไหนนานๆ ก็ได้ (ไม่อยากเที่ยวแบบชะโงก) เที่ยวได้ไม่กี่ย่านก็ไม่เป็นไร (เที่ยววนวงกลมตามแนวรถไฟเจอาร์) ปีหน้าค่อยมาเก็บตกเอาใหม่ (สรุปว่าเก็บตกทุกปี)
  • ไกด์แนะนำสถานที่ และเกร็ดความรู้ ซึ่งชอบมาก! ตลอดที่อยู่บนรถบัสระหว่างนั่งไปสถานที่เที่ยวต่างๆ ข้อนี้ บางที เราง่วง แต่กลัวไม่รู้ความเป็นมา ก็เลยเปิดโทรศัพท์อัดเสียงเอาไว้ ตื่นเมื่อไรค่อยเปิดมาฟัง อีกทั้งมันจะเป็นประโยชน์สำหรับการไปเที่ยวด้วยตนเองในครั้งต่อไป (เที่ยวกับทัวร์ 3 คืน)

 

ครั้งที่ 2 ปี 2558 เที่ยวด้วยตนเอง

 

ตอนนั้นเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ สำหรับจะไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเอง แต่ยังมีความทรงจำดีๆ และข้อมูลต่างๆ ที่เคยไปกับทัวร์ ที่นำปรับใช้ได้มากพอสมควร ทำตามในแบบฉบับเที่ยวเอง ไม่มีไกด์มาแนะนำ ก็ไม่ติดขัดอย่างไร ผ่านตลอด

เราต้องทำอะไรบ้างล่ะ ?

  • กำหนดวันไปเที่ยว ไว้ก่อน จากนั้นต้องหาข้อมูลต่างๆ วิธีการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ราคาถูก
  • อ่านรีวิว สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่คนไทยชอบไป …เลือกได้ย่านชินจูกุ เป็นไฮไลท์หลัก ที่พักต้องอยู่ใกล้ย่านนี้ 
  • ทำการจอง ผ่าน www.expedia.co.th กันเลยค่ะ ตอนนั้นสมัครสมาชิกรับข่าวสารข้อมูลไว้แล้ว เพื่อผลประโยชน์มากมายทั้งส่วนลด สะสมพอยท์ (มีคนแนะนำให้สมัคร) วิธีการจองก็คือ เลือกเมนู เที่ยวบิน + โรงแรม (เราไม่อยากจองแยก เพราะยังไม่มีประสบการณ์ ทั้งเรื่องตั๋ว และโรงแรม อย่างน้อยก็อุ่นใจระดับหนึ่ง บินได้ นอนดี(คิดอย่างนั้น) ส่วนจะเที่ยวยังไง ค่อยไปลุ้นกันหน้างาน !)
  • ป้อนข้อมูล สนามบินต้นทางเราจากกรุงเทพฯ ปลายทางโตเกียว ใส่รายละเอียดวันเดินทาง ไป กลับ จำนวนห้องพัก จำนวนคน จากนั้นก็เลือกแพคเกจที่ถูกใจ (แต่เราใส่เงื่อนไขค้นหาย่านชินจูกุ ตัวเลือกจึงมีไม่มาก) แพคเกจที่พักพร้อมตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชีย พักโรงแรม E-Hotel Higashi Shinjuku ราคาถูกมากๆ ประมาณ 16,000 บาทต่อคน พัก 5 คืน โรงแรมอยู่ใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงทางขึ้น ลง แล้ว (แต่เมื่อลงไปเดินใต้ดินเพื่อไปขึ้นรถไฟนี่สิ เหมือนจะไกล เดินเมื่อยเลยแหละ อาจจะไม่ชิน แต่ก็ชอบ) วันเข้าพัก เรานั่งรถไฟใต้ดินไปถึงตอนเช้า ฝากกระเป๋าไว้ที่เค้าน์เตอร์ แล้วก็ไปเที่ยวกันต่อ กลับมาทันเวลาเช็คอิน เก็บกระเป๋าเข้าห้องพัก หยุดเหนื่อย ก่อนไปท่องราตรี หาข้าวกิน ส่วนวันกลับเราเรียกแท็กซี่ไปสถานีชินจูกุ เพื่อนั่ง NEX ไปสนามบินนาริตะ ไม่ยุ่งยาก แปปเดียวก็ถึง 

  • การเดินทางท่องเที่ยวแต่ละวัน บอกเลยว่ามือใหม่เที่ยวด้วยตนเองอย่างพวกเรา งง มากมาย กับการเดินทางโดยรถไฟนี่ช่างวุ่นวายอะไรเช่นนี้ (เราเน้นใช้บริการรถไฟใต้ดิน) ปริ้นรีวิว แนะนำเส้นทาง การขึ้นลงแต่ละสถานี ไปเยอะมาก … อันนี้บอกได้เลยว่า ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร ทำให้ งง หลงทิศ เสียเวลา(มัวแต่เปิดอ่าน หาจุดที่บอกในรีวิว) สู้ดูตาราง หรือป้ายในสถานี ยังจะง่ายกว่า 

 

  • อีกอย่างที่ต้องจำคือ ตัวเลขสถานี จำไว้ว่าสถานที่ที่เราจะไปเป็นตัวเลขอะไร ไปทางมากหรือน้อย (เช่น F01-F15) ดูตามลูกศรชี้ก็จะง่ายขึ้น (ตรงที่รอรถไฟนั่นแหละ ตลูกศรชี้ไปทางไหน ก็รอฝั่งนั้น)  … เคยนั่งผิดมาหลายครั้ง ไปผิดทาง (ดูตัวเลข เช่น ถ้าจะไปเลข F10 แต่รถกลับไปทางเลข F01) พอรู้ตัวก็นั่งกลับมาใหม่ แต่ก็ต้องดูให้ดีว่าจะกลับไปขึ้นที่ชั้นไหน โซนไหน ไม่ใช่ว่า นั่งผิด แล้วก็ลง หันหลังกลับไปอีกฝั่ง เหมือนบ้านเรา ไม่ใช่ ! นะคะ ดูตารางและแผนที่ในสถานีนั่นแหละ หยุดอ่านสักนิด จะได้ไม่ขึ้นผิดทางอีก !!

 

ครั้งที่ 3 ปี 2559 มีความมั่นใจขึ้นมาอีกระดับ แยกจองตั๋วเครื่องบิน กับที่พัก

หาที่พักราคาถูกกันก่อน

  • ยังติดใจโรงแรม E-Hotel เพราะจำการเดินทางได้ ชินกับย่านนี้ สะดวกสบาย  แต่ก็ไม่ได้ดังหวัง ดูราคาจาก expedia ยังแพง ทั้งจองเป็นแพคเกจ หรือจองแยก 
  • ลองจอง ผ่าน www.agoda.com ดูสิ ก็ไม่มีราคาโปรโมชั่นของ E-Hotel ที่ถูก(มีแต่มากกว่า 3,000 บาท) เลยต้องหาใหม่บริเวณใกล้เคียง ก็พบว่า Sunroute Higashi Shinjuku เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ราคาประมาณ 2,500 บาท ต่อคืนต่อห้อง (พัก 6 คืน 2 ห้อง) รีบจองเลยค่ะ

ตั๋วเครื่องบินราคาไม่แพง

  • ตั้งเงื่อนไขใหม่ เลือกขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่อยากไปขึ้นเครื่องไกลถึงดอนเมือง (ไกลบ้าน) ไม่อยากทุลักทุเล หอบสัมภาระเหมือนปีก่อน …
  • ค้นหาสายการบิน ข้อนี้ขอบอกก่อนว่า เราจะเลือกจองผ่านสายการบินโดยตรงเท่านั้น เพื่อความชัวร์ เลือกค้นจากเว็ปไซต์ของแต่ละสายการบินกันเลย
  • การบินไทย ตัวเลือกแรกที่เข้าไปดู มีแพคเกจโปรโมรชั่น (ผ่านมาหลายวันแล้วค่ะ) ตอนนั้น ราคาเริ่มต้นที่เข้าไปดู (ไป-กลับ) ประมาณ 15,000 บาท น่าสนใจ แต่ขอปรึกษากันก่อนได้ไหม พอเข้าไปดูใหม่ในวันต่อมา ราคาขยับไปที่ 17,000 บาท แล้วค่ะ ไม่ได้การละ จองเลยดีกว่า ไม่เช่นนั้นราคาจะยิ่งแพงขึ้น … สรุปว่า ค่าตั๋ว ค่าที่พัก ต่อคนในทริปนี้อยู่ที่คนละประมาณ 30,000 บาทกว่าๆ (ไม่ค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องจ่ายแน่ๆ เช่น ค่ากินและเติมเงินบัตร Suica วันละ 3,000 – 4,000 เยนต่อคนต่อวัน …ส่วนเงินสำหรับไว้ซื้อของฝาก ของชอบของตัวเองก็กันไว้อีกจำนวนหนึ่ง) ครั้งนี้ไป 8 วัน

 

ครั้งที่ 4 ปี 2560 เริ่มวางแผนตั้งแต่ต้นปี

 

เริ่มค้นหาและจองโรงแรมล่วงหน้า 6 เดือน

  • กำหนดวันเดินทาง ดูโรงแรมไว้ก่อน ยึด agoda เป็นตัวตั้ง เพราะเราเป็นสมาชิกอยู่แล้ว ยังไงๆ ก็จะใช้พอยท์ที่เคยได้มาแลกเป็นส่วนลด ครั้งนี้ปรับแผนใหม่ เพราะต้องไปไกลหลายเมือง ที่พักขอให้อยู่ใกล้สถานีรถไฟหลักๆ ของเมืองนั้นๆ อย่างโตเกียวขอใกล้สถานีโตเกียว และใกล้สถานที่เที่ยวไฮไลท์ที่วางไว้ …
  • การจองโรงแรมต้องจองหลายครั้งแล้วค่ะ เพราะฉนั้น สถานที่หลักๆ ของเรามีอะไรบ้าง ทำตารางไว้ จะไปวันใด ที่ไหน แล้วเข้าไปจองทีละสถานที่ (คราวนี้ไป 11 วัน)
  • เข้าเว็ปไซต์ agoda (เข้าระบบสมาชิก) เลือกกรอกข้อมูลทีละสถานที่ก่อน เจอถูกใจก็จองเลย แต่ถ้ายังไม่ใช่ ก็ผ่านไป เลือกอีกสถานที่ ทำแบบนี้ จนกว่าจะจองครบทุกที่ที่ไป เราจะเน้นโรงแรม 3 ดาว ไม่เอาอาหารเช้า เน้นราคาถูก ปลอดภัย ใกล้สถานีรถไฟฟ้า (ข้อดีของ agoda อีกอย่างคือ มีรูปรถไฟ ซึ่งเราสามารถคลิ้กดูได้เลยว่าใกล้รถไฟฟ้าอะไรบ้าง ระยะทางเท่าไร(เราจะเลือกเดินไม่เกิน 400 เมตร) แล้วยังบอกอีกว่าเมืองที่เราจะไปนั้นน่ะ โรงแรมต่างๆ ถูกจองไปแล้วกี่เปอร์เซ็นต์ อันนี้ก็สำคัญสำหรับเรา เพราะจะทำให้เรารู้ว่า ยังมีโรงแรมอีกเยอะที่ยังว่าง (เปอร์เซ็นต์ยังไม่ใกล้ 100) ไม่ต้องรีบร้อน หากยังไม่ถูกใจ รออีกหน่อยก็ได้ เลือกไว้สัก 3-5 โรงแรม ดูสลับไปมา ข้อดีอีกอย่างของจองผ่าน agoda คือ สามารถยกเลิกได้ ภายในเวลาที่กำหนด จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (เราเคยยกเลิกหลายครั้ง) 

 

คราวนี้มาถึงเรื่องจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกกันบ้าง

 

  • ขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ จองผ่านสายการบินโดยตรง (เคยอ่านเจอ จองผ่านเอเจนซี่ เสี่ยงต่อการเท ไม่มีที่นั่ง ด้วยเพราะเอเจนซี่ไม่จ่ายเงินให้สายการบิน ฯ) เอาที่สบายใจไว้ก่อน ได้ไปแน่นอน แพงขึ้นมาหน่อย ไม่เป็นไร ไม่ถูกเท ถูกทิ้ง !
  • การบินไทย ถูกค้นหาเป็นอันดับแรก ตั๋วโปรไม่มีเลย รอแล้ว รออีก (3 เดือน) ด้วยความอดทน อย่างมีความหวัง แต่จนใกล้จะเดินทางแล้ว (3 เดือนก่อนเดินทาง) ก็ไม่มีวี่แวว หากรอต่อไป ราคาตั๋วของสายการบินอื่นๆ ก็คงจะเริ่มปรับสูงขึ้นกันแล้ว เพราะผู้คนเริ่มวางแผนเที่ยวช่วงท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันเยอะ ที่พักก็เริ่มแพงด้วยเหมือนกัน(แต่เราจองแล้ว) ตัวเลือกของเราคราวนี้ ไม่ต้องบินตรงก็ได้นะ ขอให้ได้ราคาถูก (ตั้งไว้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อคน) แวะต่อเครื่องก็ได้ ทั้งไปและกลับไม่มีปัญหา
  • สายการบิน ANA คือตัวเลือกที่ดีที่สุด เราเข้าไปจองที่นี่ค่ะ www.ana.co.jp/th/th/  เข้าไปทำการจองหลายครั้ง ซึ่งอย่างหนึ่งที่เราสังเกตุได้ในระหว่างการเฝ้าเช็คราคาแต่ละครั้ง ในรอบ 1 เดือน เราเคยเจอราคาบินตรงถูกสุด(ครั้งแรกๆ) ที่ 15,000 บาท กับ 17,000 บาท ตอนนั้นเรายังสรุปกันไม่ได้ เพราะมีผู้ร่วมเดินทางเพิ่มมาอีก 1 คน รอไปรอมา ราคาเริ่มสูงขึ้น บางวันราคาโดดไป 20,000 กว่าบาท หรือแม้กระทั่งว่า กำลังดูๆ อยู่ พอรีเฟรซหน้าจอ ราคาปรับเปลี่ยนเป็นสูงขึ้น แถมเป็นราคาแวะต่อเครื่องอีกต่างหาก วันนั้นเลยต้องหยุดการค้นหาไว้ก่อน ค่อยเริ่มหากันวันต่อไป

  • สรุปราคาที่จองได้ต่อคนอยู่ที่ประมาณ 19,000 บาท(กว่าๆ) จองเมื่อวันที่ 1 ต.ค. (เดินทาง 22 ธ.ค.) ขากลับแวะย่างกุ้ง หลังจากที่จองแล้ว วันต่อๆ มา ลองเข้าไปดูใหม่เผื่อจะมีราคาบินตรงราคาถูก(ดูเล่นๆ ว่าจะมีไหม) แต่บอกเลยว่า ไม่มีอีกแล้วค่ะ ไม่ว่าจะบินตรง บินแวะ ราคาต่ำกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ! …การต่อเครื่องไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลยค่ะ เจ้าหน้าที่(ย่างกุ้ง) ดูแลดีมาก เราแค่รอต่อเครื่องอย่างเดียว กระเป๋า เขาย้ายให้หมด นอกจากจะได้เที่ยวญี่ปุ่นแล้ว ยังได้ไปเห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนที่นั่น(ในสนามบินย่างกุ้ง) ถือเป็นการเยือนอีกหนึ่งประเทศ ฟินไปอีกแบบ!  … ข้อดีของสายการบิน ANA อีกอย่างคือ ถ้าไปต่างเมืองในญี่ปุ่น(เราไปซัปโปโร) สิทธิพิเศษที่สายการบินให้เราคือ จองตั๋วไปกลับภายในประเทศ ในราคาพิเศษ ซึ่งถูกมาก (ต้องใส่โค้ดของการจองระหว่างประเทศ) เราจองขากลับ CTS-HND ในราคาคนละ 1,650 บาท ส่วนขาไม่ได้จอง เพราะอยากแวะหลายเมือง จึงต้องซื้อพาส

 

เทคนิค และวิธีการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักของเรา อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดช่วงวันเวลาที่จะบอกได้ว่า ช่วงไหน เดือนอะไร ที่ราคาของตั๋วเครื่องบิน และที่พักจะถูกบ้าง แต่เทคนิคหลักๆ เลยคือ เริ่มดูโรงแรม ก่อนเดินทาง 6 เดือน เจอถูกใจจองไว้ก่อน ถ้าเปลี่ยนใหม่ค่อยยกเลิกโรงแรมเดิม และถ้ามีคนไปเพิ่มอีกสักคน ก็จองโรงแรมเดิม อีก 1 ห้อง ไม่ต้องยกเลิกที่จองไว้แล้ว (เคยลองจองใหม่ เปลี่ยนจาก 2 ห้อง เป็น 3 ห้อง ราคาแพงมาก)  พักคนละชั้น ไม่เป็นไร นัดเจอที่ล็อบบี้ ส่วนตั๋วเครื่องบิน อันดับแรกคือเฝ้าเช็คราคาโปรจากแต่ละสายการบิน บางช่วงมีโปร แต่เข้าไปในระดับจะจอง ราคาไม่ได้ถูกดังว่า โดยเฉพาะเมืองหลักๆ นี่แทบไม่ต้องหา …ถ้าใครจองได้แล้วละก็ รีบจับไว้เลย โรงแรมค่อยหาจองทีหลัง (หาไม่ยาก) …ก่อนวันเดินทางแนะนำว่าเช็คอินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของสายการบิน ภายในเวลาประมาณ 24 ชม. และ 2 ชม.ก่อนเครื่องออกจากรันเวย์ (ขึ้นอยู่กับสายการบิน) ทั้งขาไป และขากลับ เพราะเราจะได้รับความสะดวก ตรงไปช่องโหลดกระเป๋าได้เลย คนน้อย 

 

สรุปง่ายๆ ก็คือ “จองโรงแรม 6 เดือน และจองตั่วเครื่องบิน 3 เดือน ก่อนการเดินทาง”

 

เพิ่มเติม… เทคนิคการเที่ยวในญี่ปุ่น อีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน นั่นก็คือ เราจะซื้อบัตร Suica สำหรับใช้เดินทางในแต่ละวัน เพราะว่าง่ายเมื่อต้องขึ้นรถไฟ ทั้งใต้ดิน บนดิน รถบัส (เติมเงินวันละ 1,000 เยน แต่ถ้านั่งไกล หลายเที่ยวก็เติมเพิ่มอีกครั้งละ 1,000 เยน) วันสุดท้ายก่อนกลับก็พยายามใช้บัตร ให้เหลือเงินน้อยที่สุด ถ้าไม่ต้องนั่งรถไฟแล้ว ที่สนามบินนาริตะ มีอะไรน่าสนใจหลายอย่าง สามารถใช้บัตร Suica ได้ ไม่ว่าจะฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์ ซื้อขนม ของกิน ของใช้ ตามร้านที่ร่วมรายการใช้บัตร จากนั้นก็เก็บใส่กระเป๋า พกกลับไทย ไว้ใช้ใหม่ในครั้งหน้าเมื่อไปญี่ปุ่น

 

 

การเที่ยวครั้งนี้ เราเน้นกูเกิลแมพนำทาง ซึ่งสะดวกและรวดเร็ว (ง่ายมาก) ไม่ต้องกลัวหลง ถ้างง ก็ถามคนท้องถิ่นได้ เขายินดีตอบให้หาย งง คลายสงสัยในระดับหนึ่ง คนนี้ไม่ได้(ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษ) ก็ถามคนต่อไป ไม่ต้องอาย ไม่ต้องกลัว !

 

หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายคนที่คิดจะเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือนธันวาคม ถึงเดือนมกราคม ทั้งไปกับทัวร์ และเที่ยวด้วยตนเอง คงต้องเริ่มมองหาช่องทางที่จะทำให้งบไม่บานปลายไว้แต่เนิ่นๆ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้อาจจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ถ้าคิดจะพัก เริ่มทำตารางการท่องเที่ยวไว้ได้แล้วนะคะ ลาพักร้อนล่วงหน้ายาวๆ เลยค่ะ ส่วนนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัยก็ปิดเทอม(ตามเออีซี)พอดี  แต่เทคนิคนี้ก็ใช้กับเทศกาลอื่นได้นะคะ อาจจะได้ตั๋วดี ราคาถูกกว่าเราก็เป็นไปได้ … ลองดูค่ะ

คลุกคลีอยู่ในวงการสื่อกว่า 26 ปี