“มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย” เผยลิสต์ร้านอาหารไทยคว้า ‘ดาวมิชลิน’ ประจำปี 2569 เพิ่ม 10 ร้าน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ MICHELIN เปิดตัวคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับประเทศไทย ประจำปี 2569 (The MICHELIN Guide Thailand 2026) พร้อมประกาศ 468 รายชื่อร้านอาหารที่คว้ารางวัล ‘ดาวมิชลิน’ และรางวัลพิเศษอื่น ๆ ซึ่งประกอบด้วย ร้านที่ได้รับรางวัล ‘สามดาวมิชลิน’ 2 ร้าน (เลื่อนระดับจาก ‘สองดาวมิชลิน’ 1 ร้าน), ‘สองดาวมิชลิน’ 8 ร้าน (เลื่อนระดับจาก ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ 2 ร้าน), รางวัล ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ 33 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 3 ร้าน และเลื่อนระดับจาก MICHELIN Selected 4 ร้าน), รางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ 137 ร้าน (ติดอันดับครั้งแรก 13 ร้าน) และร้านแนะนำ หรือ MICHELIN Selected อีก 288 ร้าน  (ติดอันดับครั้งแรก 50 ร้าน) 

เกว็นดัล ปูลเล็นเนค (Gwendal Poullennec) ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นสำหรับผู้มองหาประสบการณ์ด้านอาหารที่หลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ฉบับล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการและความแปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายด้าน คู่มือฉบับนี้ครอบคลุมประเภทอาหารมากขึ้น…สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งในแวดวงอาหารของไทยซึ่งขับเคลื่อนด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ที่น่าทึ่ง  นอกจากนี้ จำนวนร้านระดับดาวมิชลินที่เพิ่มขึ้นยังทำให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายด้านอาหารที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้นบนเวทีโลก

การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย พบว่าเชฟชาวต่างชาติเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยนำพลังสร้างสรรค์และมุมมองที่เป็นสากลมาสู่วงการอาหารไทย ขณะเดียวกันยังผสมผสานวัตถุดิบและขนบธรรมเนียมท้องถิ่นในการรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ขณะที่เชฟชาวไทยมีบทบาทในการยกระดับอาหารท้องถิ่นด้วยการขับเน้นรสชาติประจำภูมิภาคให้ชัดเจนและโดดเด่นขึ้น นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างเชฟกับผู้ผลิตรายย่อยยังขยายวงกว้างขึ้น ร้านอาหารจำนวนมากไม่เพียงเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล แต่ยังส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจากเกษตรกรรายย่อยและชุมชนในพื้นที่ด้วย ในขณะเดียวกัน กระแสร้านอาหารแบบสบาย ๆ ที่สะท้อนตัวตนของเชฟ เมนูที่เน้นพืชเป็นหลัก และแนวคิดอาหารไทยสมัยใหม่ที่ยังคงรากเหง้าดั้งเดิม กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น รวมทั้งอาหารเชิง “สร้างสรรค์” หรือ “ไร้พรมแดน” ซึ่งเน้นการผสานเทคนิคและวัตถุดิบจากหลากวัฒนธรรมอาหาร กำลังเป็นเทรนด์ใหม่มาแรง

นางสาวฐาปนีย์  เกียรติไพบูลย์  ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า โครงการ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ถือเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยก้าวสู่มาตรฐานระดับโลก รวมทั้งช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism) ของไทยให้เป็นที่รู้จัก ผ่านการนำเสนอเมนูที่สะท้อนทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์ด้านรสชาติของไทยได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้บุคลากรรุ่นใหม่ในวงการอาหารก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ 
ปี พ.ศ. 2569 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการท่องเที่ยวไทยที่ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” และ “คุณค่า” ในทุกมิติ ภาคธุรกิจร้านอาหารและงานบริการจึงมีบทบาทเด่นไม่เพียงในฐานะตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นผู้รังสรรค์ประสบการณ์ที่น่าจดจำให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก  ภายใต้แนวคิด “Unforgettable Experience: Healing is the New Luxury” หรือ “ประสบการณ์ที่มิอาจลืมเลือน การเยียวยา คือ ความหรูหรารูปแบบใหม่” เพราะทุกการเดินทางไม่ใช่เพียงการเดินทางท่องเที่ยว แต่คือการค้นพบความสงบ ความสุข และแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง 

ไฮไลต์ของ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย ปีนี้คือการที่ร้าน “ซูห์ริง” ก้าวขึ้นคว้า สามดาวมิชลิน เป็นร้านที่ 2 ในประเทศไทย ต่อจาก ศรณ์ ที่ครองตำแหน่งร้านสามดาวร้านแรกของไทยมาแล้วก่อนหน้า โดย ซูห์ริงนำเสนออาหารเยอรมันร่วมสมัย ซึ่งเคยได้รับการบรรจุในคู่มือ มิชลิน ไกด์ ประเทศไทย มาตั้งแต่ฉบับแรกในปี 2561 ในฐานะร้านหนึ่งดาว ก่อนจะไต่ระดับเป็นสองดาวในปีถัดมา และรักษามาตรฐานระดับสองดาวไว้อย่างมั่นคงตลอด 7 ปีเต็ม และการก้าวสู่สามดาวในฉบับปี 2569 นับเป็นบทพิสูจน์ถึงความเป็นเลิศ สม่ำเสมอ และมุ่งมั่นละความมุ่งมั่นรักษามาตรฐานสูงสุดด้านอาหารได้เป็นอย่างดี

นอกจานี้ ยังมีร้านอาหารที่ได้รับการเลื่อนระดับจากหนึ่งดาวมิชลิน เป็น สองดาวมิชลิน เพิ่มขึ้น 2 ร้าน ได้แก่ ‘แอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี’ และ ‘อินดี’.แอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี โดยแอน-โซฟี พิค แอท เลอ นอร์มังดี โดดเด่นด้วยอาหารฝรั่งเศสร่วมสมัย นำโดยเชฟแอน-โซฟี พิค และเชฟทามากิ โคบายาชิ ถ่ายทอดจานเด่นระดับตำนานของเชฟพิค รวมถึงล็อบสเตอร์อันเลื่องชื่อ พร้อมเซ็ตเมนู Voyage ที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ส่วน อินดี เป็นร้านอาหารอินเดียสมัยใหม่ที่พานักชิมสัมผัสรสชาติจากทุกภูมิภาคของอินเดีย ผ่านการนำเสนอที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เมนูอย่างกุ้งคาราบิเนโร ผักดอง และปราตา ยังสะท้อนประสบการณ์ของเชฟจากการทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่น ทำให้เกิดรสสัมผัสที่น่าสนใจและแตกต่างอย่างลงตัว

ในส่วนของร้าน หนึ่งดาวมิชลิน ปี 2569 มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 7 ร้าน โดย 3 ร้านเป็นผู้ได้รับรางวัลครั้งแรก ได้แก่ โบ.ลาน, คานนูบี บาย อุมแบร์โต บอมบานา, และ แอทช่า ขณะที่อีก 4 ร้าน ได้แก่ กากัน, จุกซุนแช, นุสรา, และ ซูชิไซโตะ ได้รับการเลื่อนระดับจากร้านแนะนำ (MICHELIN Selected)

ไม่เพียงเท่านั้น มิชลินได้ยังได้มอบรางวัลพิเศษ 4 รางวัล คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย มอบรางวัลพิเศษให้กับบุคลากรมืออาชีพจากร้านอาหารที่ติดอันดับในคู่มือฯ 

• รางวัล MICHELIN Guide Young Chef Award 
MICHELIN Guide Young Chef Award เป็นรางวัลพิเศษที่ได้รับการสนับสนุนโดย “บลองแปง” (Blancpain) มอบให้กับสุดยอดเชฟรุ่นใหม่ เชฟ “มอนด์” สุวิจักขณ์ กังแฮ เชฟและเจ้าของร้าน ‘หรอย’ (Royd) ร้านระดับ MICHELIN Selected

• รางวัล MICHELIN Guide Opening of the Year Award 
MICHELIN Guide Opening of the Year Award เป็นรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารยูโอบี (UOB) มอบให้กับบุคลากรและทีมงานซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดร้านอาหารใหม่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ วิลฟริด อ็อกเก (Wilfrid Hocquet) เชฟและเจ้าของร้าน ‘มาร์โก’ 

• รางวัล MICHELIN Guide Service Award 
MICHELIN Guide Service Award เป็นรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มอบให้สุดยอดบุคลากรของร้านอาหารที่ทุ่มเทให้กับการบริการเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การทานอาหารที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ได้รับรางวัลประจำปี 2569 คือ อาร์เซน บราเฮจ (Arsen Brahaj) ผู้จัดการร้าน ‘อาวลิส’ ร้านระดับ ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ ในจังหวัดพังงา

• รางวัล MICHELIN Guide Mentor Chef Award 
MICHELIN Guide Mentor Chef Award เป็นรางวัลที่ได้รับการสนับสนุนโดยดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ มอบให้กับเชฟผู้มีบทบาทสำคัญต่อวงการอาหารผ่านการทุ่มเทมุ่งมั่นถ่ายทอดความรู้และทักษะที่สั่งสมมาให้กับเชฟรุ่นใหม่ โดยผู้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นรายแรกในไทย คือ เดวิด ทอมป์สัน (David Thompson) เชฟและเจ้าของร้าน ‘อักษร’ (หนึ่งดาวมิชลิน) และ ‘ชอพ ชอพ กุ๊ก ช็อป’ (MICHELIN Selected)

•รางวัล MICHELIN Green Star หรือ “ดาวมิชลินรักษ์โลก”
มอบให้กับร้านอาหารที่ได้รับการจัดอันดับในคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจและความประทับใจด้วยวิสัยทัศน์อันมุ่งมั่นต่ออนาคตของวงการอาหาร มีแนวคิดสร้างสรรค์และมุ่งพัฒนาเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน 5 ร้าน ได้แก่ โกท ร้านอาหาร ‘หนึ่งดาวมิชลิน’ ที่มุ่งมั่นปรุงอาหารอย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมชูความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบในประเทศ ทั้งนี้ โกท จะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนร้านอาหารที่มุ่งมั่นในแนวทางปฏิบัติเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกับร้านอาหารอีก 4 ร้าน ได้แก่ พรุ, ฮาโอมา, จำปา และ บ้านเทพา ที่ยังคงสร้างความประทับใจให้กับผู้ตรวจสอบจาก ‘มิชลิน ไกด์’ และครองสถานะ “ดาวมิชลินรักษ์โลก” เอาไว้ได้