วธ. ร่วมงาน “เปิดพื้นที่ใหม่สู้โลกรวน ให้โลกรอด : ศาสนา นโยบาย และคนรุ่นใหม่”

วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมการศาสนา ร่วมงาน “เปิดพื้นที่ใหม่สู้โลกรวน ให้โลกรอด : ศาสนา นโยบาย และคนรุ่นใหม่” ณ วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร โดยมีพระปัญญาวชิราภรณ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เป็นประธานในพิธีเปิด
 
ในการนี้ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยนายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ศาสนาร่วมใจ สู้โลกรวน” และปาฐกถาพิเศษ “คุณธรรม นำสู้โลกรวน” โดย รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)
 
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า วิกฤติ Climate Change ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ประเทศไทยได้รับผลกระทบโดยตรง ทั้งภัยพิบัติ น้ำท่วม ไฟป่า และความสูญเสียทางเศรษฐกิจ–สิ่งแวดล้อม แม้รัฐมีเป้า Net Zero 2065 แต่ยังต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน พลังแห่งศาสนาและศรัทธาสามารถเป็นแรงบันดาลใจในการดูแลธรรมชาติ ศาสนาต่าง ๆ ล้วนสอนให้เคารพสิ่งแวดล้อม เช่น ศาสนาพุทธ : ธรรมชาติไม่แบ่งแยกมนุษย์ ศาสนาอิสลาม : มนุษย์มีหน้าที่ใช้ทรัพยากรอย่างพอดี ศาสนาคริสต์ : ต้องรักษาสมดุลและฟื้นฟูดิน ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู : โลกทั้งปวงคือครอบครัวเดียวกัน และศาสนาซิกข์ : อากาศคือนาย น้ำคือบิดา แผ่นดินคือมารดา หากศาสนิกทั้ง 5 ศาสนาร่วมมือกัน เช่น ปลูกต้นไม้ ลดก๊าซเรือนกระจก ใช้พลังงานสะอาด จะเป็นทั้งการช่วยโลกและสัญลักษณ์ความสมานฉันท์ ขณะเดียวกันยังสนับสนุนเป้าหมายนโยบายรัฐ เช่น BCG Economy และ Carbon Neutrality
 
สิ่งสำคัญคือการส่งต่อแนวคิดนี้สู่เยาวชน เพราะคนรุ่นใหม่คือพลังเปลี่ยนแปลงอนาคต การเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น ลดใช้ทรัพยากร ปลูกต้นไม้ แบ่งปันแนวคิดรักษ์โลก เมื่อรวมพลังกันจะช่วยโลกให้รอดได้
 
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้รับเกียรติจากผู้นำศาสนาทั้ง 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์–ฮินดู และศาสนาซิกข์ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “พลังศาสนา วัฒนธรรม นำสู้โลกรวน ให้โลกรอด” แสดงวิสัยทัศน์ผสานหลักคำสอนศาสนากับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างศาสนาและสังคมไทยในการก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ พร้อมทั้งเวทีเสวนาร่วม ระหว่างนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม ผู้นำนโยบาย และเครือข่ายเยาวชน ภายใต้แนวคิด “ศรัทธา–นโยบาย–การลงมือทำ” พร้อมจัดนิทรรศการและนำเสนอนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมโดยคนรุ่นใหม่ เพื่อสะท้อนบทบาทของเยาวชนในการเป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง”
 
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวทิ้งท้ายว่า การเผชิญกับวิกฤตโลกรวนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน หากศาสนาเป็นแรงบันดาลใจ นโยบายเป็นแนวทาง และคนรุ่นใหม่เป็นพลังขับเคลื่อน ความหวังที่จะให้โลกใบนี้รอดพ้นจากวิกฤตยังคงเป็นไปได้ พร้อมส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้แก่คนรุ่นต่อไป
 
ทั้งนี้ กรมการศาสนา มีนโยบายสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการ “เปิดพื้นที่ศาสนสถานสีเขียว” เพื่อเป็นแบบอย่างด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ การปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มออกซิเจนและลดคาร์บอน การปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อเป็นแหล่งอาหารภายในชุมชน การลดและคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบเพื่อลดมลพิษ รวมทั้งการส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือก เช่น การติดตั้งโซล่าเซลล์ เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานจากฟอสซิล เป็นต้น และจัดกิจกรรมสำหรับเยาวชน “ธรรมะวัยใส หัวใจสีเขียว” เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ผ่านการบูรณาการหลักธรรมทางศาสนาและศิลปวัฒนธรรมไทย ส่งเสริมให้เกิดความตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โลกสามารถอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้อย่างยั่งยืน ///

อัลบั้มภาพ

title

ผู้ชายหมายเลข7 มองโลกผ่านวิวไฟน์เดอร์ เจ้าของผลงานช่างภาพข่าวยอดเยี่ยม3รางวัล คลุกคลีกับวงการสื่อมามากกว่า30ปี