ออกกำลังกาย เช้า หรือ เย็น อันไหนตอบโจทย์

การเลือกเวลาออกกำลังกายที่ดีที่สุด ไม่ได้มีคำตอบที่ตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับ เป้าหมายด้านสุขภาพ และ ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละบุคคล การออกกำลังกายทั้งตอนเช้าและตอนเย็นต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนี้


ออกกำลังกายตอนเช้า (Morning Workout)

ข้อดี:

  1. สร้างวินัยและความสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายตอนเช้ามีแนวโน้มที่จะถูกรบกวนจากภารกิจอื่น ๆ ในวันน้อยกว่า ทำให้คุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอและกลายเป็นกิจวัตรได้ง่ายขึ้น
  2. กระตุ้นการเผาผลาญไขมัน: หากออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอก่อนอาหารเช้า (ท้องว่าง) ร่างกายจะดึงไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานได้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  3. เพิ่มพลังงานและความสดชื่น: การเคลื่อนไหวร่างกายในตอนเช้าช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตและหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ทำให้สมองปลอดโปร่ง และมีพลังงานที่ดีไปตลอดทั้งวัน
  4. ปรับนาฬิกาชีวิต: การได้รับแสงแดดยามเช้าช่วยปรับ “นาฬิกาชีวภาพ” ของร่างกายให้เข้าที่ ทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวในตอนเช้าและง่วงในเวลากลางคืน ซึ่งส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น

ข้อเสีย:

  1. เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ: อุณหภูมิร่างกายและความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อจะต่ำกว่าช่วงอื่นของวัน ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาในการ วอร์มอัพ ให้นานและระมัดระวังเป็นพิเศษ
  2. ประสิทธิภาพอาจไม่สูงสุด: พลังงานและความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออาจยังไม่สูงเท่าช่วงเย็น ทำให้การยกน้ำหนักหรือฝึกความเข้มข้นสูงอาจทำได้ไม่เต็มที่
  3. ต้องตื่นเช้ามาก: สำหรับคนที่ไม่ใช่คนตื่นเช้า การต้องตื่นเร็วขึ้นอาจทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอในระยะยาว

ออกกำลังกายตอนเย็น (Evening Workout)

ข้อดี:

  1. ประสิทธิภาพสูงสุดของร่างกาย: ช่วงบ่ายถึงเย็น (ประมาณ 15.00 – 21.00 น.) เป็นช่วงที่อุณหภูมิร่างกายสูงที่สุด กล้ามเนื้อจึงมีความยืดหยุ่นและพร้อมใช้งานมากกว่า ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ และสามารถออกแรงได้เต็มที่กว่า เหมาะสำหรับการฝึก เวทเทรนนิ่ง หรือการฝึกที่ใช้ความแข็งแรงสูง
  2. คลายเครียด: การออกกำลังกายหลังเลิกงานช่วย ปลดปล่อยความตึงเครียด และความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
  3. ป้องกันการสะสมไขมัน: การออกกำลังกายตอนเย็นจะช่วยเผาผลาญพลังงานจากอาหารมื้อเย็น ทำให้สารอาหารถูกใช้ไปจนเหลือน้อยที่สุด ลดการสะสมของไขมันในร่างกาย

ข้อเสีย:

  1. มีโอกาสถูกรบกวนสูง: อาจมีกิจกรรมอื่น ๆ เข้ามาแทรก เช่น งานล่วงเวลา หรือนัดหมายทางสังคม ทำให้มีโอกาส ขาดความสม่ำเสมอ ได้ง่าย
  2. อาจรบกวนการนอนหลับ: หากออกกำลังกายด้วยความเข้มข้นสูง หรือออกกำลังกาย ใกล้เวลานอนมากเกินไป (ควรเว้นระยะอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง) ฮอร์โมนที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวอาจรบกวนการนอนหลับได้

สรุป: ควรออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด?

คำตอบที่สำคัญที่สุดคือ: เวลาที่คุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากคุณมีเป้าหมายที่ชัดเจน สามารถพิจารณาได้ดังนี้:

เป้าหมายเวลาที่แนะนำเหตุผล
ลดน้ำหนัก/ลดไขมันตอนเช้า (ก่อนอาหารเช้า)ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้ดีกว่า และช่วยกระตุ้นการเผาผลาญตลอดวัน
สร้างกล้ามเนื้อ/เพิ่มความแข็งแรงตอนเย็น (ช่วงบ่ายแก่ๆ)กล้ามเนื้อมีความพร้อมและยืดหยุ่นสูง ลดความเสี่ยงบาดเจ็บ สามารถออกแรงได้เต็มที่
สร้างวินัย/จัดการเวลาตอนเช้ามีสิ่งรบกวนน้อย ทำให้ง่ายต่อการทำให้เป็นกิจวัตร
คลายเครียด/ผ่อนคลายตอนเย็น (หลังเลิกงาน)ช่วยปลดปล่อยความตึงเครียดของวันทำงาน

คำแนะนำเพิ่มเติม: ไม่ว่าจะเลือกเวลาใด ความสม่ำเสมอ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด หากคุณไม่สามารถออกกำลังกายตามช่วงเวลา “ที่ดีที่สุด” ได้ ก็ขอให้ออกกำลังกายในช่วงเวลาที่คุณสะดวกที่สุด เพราะการออกกำลังกายย่อมดีกว่าการไม่ออกกำลังกายเลย!