การเรียนภาษาที่สอง อาจเริ่มต้นจากความสนใจ แต่สำหรับ “ซี – จิรัชญา สาครพานิช” นักศึกษาชั้นปีที่ 4สาขาวิชาภาษาจีน วิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต การเรียนรู้ภาษาจีนคือการเปิดประตูสู่โลกกว้างอย่างแท้จริง ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถในการถ่ายทอดความคิดผ่านตัวอักษรทำให้เธอสามารถคว้ารางวัลยอดเยี่ยมจากเวทีประกวดเรียงความภาษาจีนระดับนานาชาติ “美美与共青年笔汇”
(โครงการบทความเยาวชน : แบ่งปันความงดงามแห่งวัฒนธรรม)ซึ่งจัดขึ้นสำหรับนักศึกษาต่างชาติที่ศึกษาอยู่ในประเทศจีน
สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่ใช้ภาษาจีนเป็นเครื่องมือในการสร้างบทสนทนาระหว่างวัฒนธรรมได้อย่างงดงาม
นางสาวจิรัชญา สาครพานิช (ซี) นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาจีน วิทยาลัยศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยรังสิต (นักศึกษาโครงการ 2+2 ณ มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง ประเทศจีน)
กล่าวว่ากิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาต่างชาติที่ไม่มีสัญชาติจีนได้ใช้ภาษาจีน
ในการถ่ายทอดเรื่องราว ประสบการณ์ และความประทับใจ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ในประเทศจีน
ผ่านบทความที่สื่อสารด้วยภาษาจีนอย่างสร้างสรรค์ จุดเริ่มต้นของการเข้าร่วมกิจกรรมนี้
มาจากงานเขียนในวิชาการเขียนภาษาจีนที่อาจารย์มอบหมายให้เขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเองในประเทศ
จีน ต่อมาอาจารย์ได้แจ้งว่า มีการจัดการแข่งขันเรียงความระดับมหาวิทยาลัย
และเปิดรับสมัครนักศึกษาต่างชาติที่สนใจ จึงตัดสินใจส่งผลงานเข้าร่วม
“ตอนแรกซึยังพูดภาษาจีนไม่ค่อยคล่อง และไม่กล้าเข้าสังคมเท่าไหร่ แต่พอได้ลองปรับตัว
เริ่มใช้ภาษาจีนในการสื่อสารมากขึ้น เริ่มเรียนรู้วัฒนธรรมจีนมากขึ้น
หนูจึงอยากใช้บทความนี้ถ่ายทอดเส้นทางการเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และความประทับใจที่มีต่อวัฒนธรรมจีนค่ะ
ซีได้ใช้เวลาศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเขียนบทความภาษาจีน ทั้งในด้านโครงสร้าง
และแนวทางการเขียนบทความภาษาจีนจากตัวอย่างต่างๆ ก่อนจะเริ่มลงมือเขียนด้วยตัวเอง
และนำไปปรึกษาอาจารย์วสันต์ ทรัพย์ศิริพันธ์ เพื่อขอคำแนะนำในการปรับปรุง
โดยอาจารย์ช่วยแนะนำหลายเรื่องมาก ทั้งเรื่องโครงสร้าง ภาษาที่ใช้ อาจารย์ได้ช่วยปรับจุดที่ไม่ชัดเจน
ให้สามารถเรียบเรียงภาษาให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
รวมถึงวิธีเขียนให้ถ่ายทอดประสบการณ์ให้ชัดเจนได้มากยิ่งขึ้น หนูแก้ไขหลายรอบ
ทำให้หนูสามารถพัฒนาบทความให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มีความมั่นใจมากพอ
ที่จะส่งบทความเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ค่ะ
บรรยากาศของการแข่งขันซีสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจากนักศึกษาหลายเชื้อชาติ
ผลงานที่ส่งเข้าประกวดมีความหลากหลายทั้งในแง่แนวคิด เนื้อหา และมุมมองที่สะท้อนถึงประสบการณ์ที่แตกต่าง
ซึ่งทำให้ซีได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และรู้สึกว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่เวทีแข่งขัน
แต่เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ประสบการณ์ และการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง
อย่างที่เกริ่นไปก่อนหน้านี้ค่ะ อุปสรรคหลักคือความไม่มั่นใจในภาษาจีนค่ะ แม้จะมีพื้นฐาน
แต่การจะเขียนให้ลึกซึ้งและสื่ออารมณ์ได้ชัดนั้นยากมาก และยังมีเรื่องของคลังคำศัพท์ภาษาจีนที่ยังมีไม่มากพอ
และเรื่องของหลักไวยากรณ์อีก ทำให้ซีต้องใช้เวลาเรียนรู้คำศัพท์เพิ่มเติม ค้นคว้า
และปรึกษาอาจารย์อยู่หลายรอบ เพื่อปรับบทความให้สมบูรณ์ค่ะ และด้วยความตั้งใจและไม่ยอมแพ้
แม้จะไม่เก่งที่สุด แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ในการฝึกฝน พัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ซีรู้สึกภูมิใจกับรางวัลนี้มากๆ
ค่ะ นอกจากนี้ ยังภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนนักศึกษาของวิทยาลัยศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ไปแสดงศักยภาพบนเวทีระดับนานาชาติ เป็นโอกาสดีที่ได้ลองใช้ภาษาจีนในบริบทจริง
และได้แสดงความสามารถในระดับที่กว้างขึ้น
อยากขอบคุณอาจารย์และภาควิชาที่สนับสนุนให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากๆ ในครั้งนี้”
ในอนาคต ซีตั้งใจจะพัฒนาทักษะภาษาจีนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยมีแผนจะสอบวัดระดับภาษาจีน HSK ระดับ
6 และหากมีโอกาส ก็อยากศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารหรืองานแปล
เพื่อใช้ภาษาจีนในการทำงานระดับนานาชาติต่อไป
“หากพูดถึงตัวหลักสูตร สภาพแวดล้อม และการสนับสนุนจากคณาจารย์ในวิทยาลัยศิลปศาสตร์
ที่ช่วยให้ซีค้นพบสิ่งที่ชอบ และกล้าตัดสินใจเปลี่ยนสายจากวิทยาลัยเภสัชศาสตร์
มาเรียนสาขาภาษาจีนอย่างเต็มตัว ตอนแรกซีเรียนสายวิทย์-คณิต จากโรงเรียนอัสสัมชัญระยอง
แล้วเข้ามาเรียนเภสัชที่ ม.รังสิต ค่ะ แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่าเราชอบภาษา เลยตัดสินใจเปลี่ยนคณะ
และสุดท้ายก็ไม่ผิดหวังเลย เพราะที่นี่เปิดโอกาสให้ได้ลอง
ได้เติบโตในแบบของตัวเองทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนอย่างแท้จริงค่ะ ภาษาจีนอาจดูยากในตอนแรก
แต่ถ้าเราขยันและกล้าใช้ มันจะค่อย ๆ ง่ายขึ้นเองค่ะ และถ้าใครยังลังเลว่าเรียนอะไรดี ซีอยากให้ลองค้นหาตัวเอง
อย่ากลัวที่จะเปลี่ยน หรือเริ่มต้นใหม่ เพราะการเลือกในสิ่งที่เราชอบจะพาเราไปได้ไกลกว่าที่คิดแน่นอนค่ะ”