กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการจัดกิจกรรม “ครอบมงคลไหว้ครูมวยไทย ประจำปี 2568” โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 1,500 คน สะท้อนพลังแห่งศรัทธาในมรดกภูมิปัญญาไทย พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ในการผลักดัน “มวยไทย” ให้เป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งตามนโยบายรัฐบาล

กรุงเทพ | วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ณ สนามศุภชลาศัย สนามกีฬาแห่งชาติ นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมครอบมงคลไหว้ครูมวยไทย ประจำปี 2568 โดยมี นายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวรายงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงฯ, นางสาวสิริรักษ์ ชูสวัสดิ์ ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), นายชาคริต สิทธิฤทธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ มร. ซอ ซอ โซ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย ตลอดจนครูมวยไทยผู้ทรงคุณวุฒิ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า “การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริม Soft Power และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับนานาชาติ ‘มวยไทย’ ไม่ได้เป็นเพียงศิลปะการป้องกันตัวหรือกีฬาเพื่อการแข่งขัน แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่หลอมรวมทั้งศาสตร์และศิลป์ จิตวิญญาณแห่งความเคารพ ความกตัญญู ผ่านพิธีไหว้ครูอันศักดิ์สิทธิ์ ภาพความสำเร็จในวันนี้ที่ปรากฏแก่สายตาชาวโลก จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sports Tourism) สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และที่สำคัญที่สุดคือการสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนไทยทั้งชาติ”

กิจกรรมนี้เป็นผลจากความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่าง กรมพลศึกษา และ สพฐ. โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่ออนุรักษ์ สืบสาน และเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้หยั่งรากลึกในกลุ่มเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป พร้อมทั้งส่งเสริมให้การออกกำลังกายด้วยมวยไทยกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยอย่างยั่งยืน
ไฮไลท์สำคัญของงานคือพิธีครอบมงคลอันเป็นสิริมงคล ซึ่งได้รับเกียรติจากปูชนียบุคคลในวงการมวยไทยมาร่วมประกอบพิธี นำโดย ครูสืบ จุนทะเกาศลย์, ครูฟอง เกิดแก้ว, ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA), ขาวผ่อง สิทธิชูชัย วีรบุรุษเหรียญเงินโอลิมปิก และ ดีเซลน้อย ช.ธนะสุกาญจน์ เจ้าของฉายา “ขุนเข่าเสาโทรเลข” พร้อมด้วยครูมวยไทยผู้ทรงคุณวุฒิอีกกว่า 40 ท่าน สร้างความประทับใจและแสดงถึงความเคารพในประเพณีดั้งเดิมอย่างสูงสุด
ความสำเร็จของการจัดงานในครั้งนี้ไม่เพียงวัดจากจำนวนผู้เข้าร่วม แต่ยังสะท้อนถึงการยอมรับในระดับสากล และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าประเทศไทยคือ “บ้านของมวยไทย” (Motherland of Muaythai) อย่างแท้จริง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะยังคงเดินหน้าสานต่อภารกิจในการเชิดชูมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อสร้างประโยชน์ในทุกมิติ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีงามของประเทศต่อไป
.