รีวิวภาพยนตร์ Love in the Big City เธอเหงาเราเผลอ

คิดจะพัก-Love in the Big City เป็นภาพยนตร์ที่น่าประทับใจอีกเรื่องหนึ่งที่นำเสนอเรื่องราวความรักและมิตรภาพในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ผ่านตัวละครที่หลากหลายและซับซ้อน ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เพียงแค่เล่าเรื่องความรักของคู่รักเพศเดียวกัน แต่ยังสะท้อนภาพสังคมเกาหลีใต้ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป และความท้าทายที่บุคคลเหล่านี้ต้องเผชิญ

เรื่องย่อแต่ไม่สปอย

เรื่องราวความรักของหนุ่มสาวต่างขั้วในเมืองใหญ่ “แจฮี” (คิมโกอึน) สาวมั่นผู้รักอิสระ ความรักคือเรื่องใหญ่ที่ต้องไปให้สุด ต่างกับ “ฮึงซู“ (โนซังฮยอน) หนุ่มผู้เก็บงำความรู้สึกไว้ภายในใจ มองความรักเป็นความลับและความสัมพันธ์ต้องเว้นระยะห่าง
เมื่อแจฮีบังเอิญรู้ “ความลับ” ของฮึงซูที่ไม่เคยบอกใคร เขาจึงค่อย ๆ เปิดใจ เหมือนเป็นแม่เหล็กคนละขั้วที่ถูกดึงดูดเข้าหากันอย่างน่าประหลาด กลายเป็นรูมเมตคู่ซี้ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันทุกโมเมนต์ ทั้งคู่เลือกที่จะไม่สนใจข่าวลือหรือเสียงนินทาจากคนรอบข้าง ขอใช้ชีวิตตามแบบฉบับของตัวเองผ่านการเติบโตและเรียนรู้ในความแตกต่างของกันและกัน เป็นความสัมพันธ์ที่มีเพียง “เธอ” และ “เขา” เท่านั้นที่จะเข้าใจ

ความสัมพันธ์ที่เกินคำว่าเพื่อน

จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่ที่การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งสอง ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงเพื่อนสนิท แต่กลับมีความผูกพันลึกซึ้งเกินกว่าคำว่าเพื่อน การที่ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับความลับและอุปสรรคต่างๆ ร่วมกัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างเช่น ฉากที่ทั้งคู่ต้องมาอยู่ร่วมกันในห้องเดียวกัน ทำให้ผู้ชมได้เห็นการปรับตัวเข้าหากัน และการค่อยๆ เปิดใจให้กัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก

ภาพยนตร์ที่มากกว่าความรัก

นอกจากเรื่องราวความรักแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม LGBTQ+ ในเกาหลีใต้ ตัวอย่างเช่น การที่ตัวละครหลักต้องเผชิญกับสายตาที่มองมาด้วยความสงสัยและการถูกตัดสินจากคนรอบข้าง ซึ่งเป็นปัญหาที่กลุ่ม LGBTQ+ ในหลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญอยู่ การที่ภาพยนตร์กล้าที่จะนำเสนอประเด็นเหล่านี้ ทำให้ผู้ชมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการยอมรับความหลากหลายทางเพศ

การแสดงที่น่าประทับใจ

นักแสดงนำทั้งสองคนสามารถถ่ายทอดบทบาทออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาที่สื่อถึงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ชมอินไปกับเรื่องราวได้ง่าย ตัวอย่างเช่น ฉากที่ตัวละครหลักต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเอง ทำให้เห็นถึงความ conflicted และความกลัวที่ตัวละครรู้สึก ซึ่งนักแสดงสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจ

Love in the Big City เป็นภาพยนตร์ที่ครบรส ทั้งความรัก ความตลก และดราม่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวที่น่าสนใจ แต่ยังช่วยให้ผู้ชมได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความหลากหลายของมนุษย์มากขึ้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าจับตามองและควรค่าแก่การชมอย่างยิ่ง

• ผู้ที่ชื่นชอบภาพยนตร์โรแมนติก: ภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความรักที่ซับซ้อนและสวยงาม
• ผู้ที่สนใจประเด็น LGBTQ+: ภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงปัญหาที่กลุ่ม LGBTQ+ ต้องเผชิญ
• ผู้ที่ต้องการดูภาพยนตร์ที่มีคุณภาพ: ภาพยนตร์เรื่องนี้มีทั้งการแสดงที่ยอดเยี่ยม การถ่ายทำที่สวยงาม และบทภาพยนตร์ที่น่าสนใจ

คะแนน: 4.5/5 ดาว

#LoveInTheBigCity #ภาพยนตร์LGBTQ+ #รีวิวหนัง