คนไทยไปเที่ยวไม่ต้องขอวีซ่า: เปิดประสบการณ์ใหม่โดยไม่ยุ่งยาก

คิดจะพัก-ปัจจุบันมีหลายประเทศทั่วโลกที่เปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้การวางแผนทริปต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการไปพักผ่อนหย่อนใจ เที่ยวชมวัฒนธรรม หรือทำธุรกิจ

ทำไมต้องเลือกเดินทางไปประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า?

  • ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย: ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการยื่นขอวีซ่า
  • วางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น: สามารถตัดสินใจเดินทางได้ทันที
  • เพิ่มความสะดวกสบาย: ไม่ต้องกังวลเรื่องเอกสารและขั้นตอนที่ซับซ้อน

ประเทศไหนบ้างที่คนไทยไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า?

มีหลายประเทศที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ซึ่งแต่ละประเทศก็มีข้อกำหนดและระยะเวลาที่อนุญาตให้อยู่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปแล้ว ประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทย ได้แก่

🌍#ทวีปเอเชีย:

🇯🇵 ญี่ปุ่น* (15 วัน)

🇨🇳 จีน (30 วัน) *เริ่ม 1 มีนาคม 2567

🇨🇳 มณฑลไห่หนาน* (30 วัน) (เกาะทางใต้ของจีน)

🇹🇼 ไต้หวัน* (14 วัน) *ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2566 – 31 กรกฎาคม 2568

🇲🇻 มัลดีฟส์* (30 วัน)

🇱🇦 ลาว (30 วัน)

🇸🇬 สิงคโปร์* (30 วัน)

🇭🇰 ฮ่องกง (30 วัน)

🇻🇳 เวียดนาม (30 วัน)

🇲🇾 มาเลเซีย* (30 วัน)

🇮🇩 อินโดนีเซีย* (30 วัน)

🇵🇭 ฟิลิปปินส์* (30 วัน)

🇲🇲 เมียนมา (14 วัน) *International Airport Only

🇰🇭 กัมพูชา (14 วัน)

🇲🇴 มาเก๊า (เขตบริหารพิเศษของสาธารณรัฐประชาชน จีน) (30 วัน)

🇧🇳 บรูไน* (14 วัน)

🇶🇦 กาตาร์* (30 วัน)

🇧🇭 บาห์เรน (14 วัน)

🇲🇳 มองโกเลีย (30 วัน)

🇬🇪 จอร์เจีย* (365 วัน)

🇰🇬 คีร์กีซ* (60 วัน) *ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2564 – 31 กรกฎาคม 2568

🇹🇯 ทาจิกิสถาน* (30 วัน)

🇰🇿 คาซัคสถาน* (30 วัน)

🇰🇷 เกาหลีใต้* (90 วัน) *ต้องกรอก K-ETA / ชำระค่าธรรมเนียม / รอผลอนุมัติผ่านอีเมลก่อน (หากไม่ได้ต้องขอวีซ่า) ➡️

อินเดีย* (30 วัน) ยกเว้นค่าธรรมเนียม E-Tourist Visa ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567

______________

🌍#ทวีปยุโรป:

🇦🇱 แอลเบเนีย* (90 วัน) (*ตั้งแต่ 6 มีนาคม 2567 – 31 ธันวาคม 2567)

🇷🇺 รัสเซีย (30 วัน)

🇹🇷 ทูร์เคีย* (หรือ ตุรกี ทั้งฝั่งทวีปยุโรปและเอเชีย) (30 วัน)

______________

🌍#ทวีปอเมริกาใต้:

🇦🇷 อาร์เจนตินา (90 วัน)

🇧🇷 บราซิล (90 วัน)

🇨🇱 ชิลี (90 วัน)

🇪🇨 เอกวาดอร์* (90 วัน)

🇵🇪 เปรู (90 วัน)

______________

🌍#ทวีปอเมริกากลาง:

🇵🇦 ปานามา* (180 วัน)

______________

🌍#ทวีปแอฟริกา:

🇿🇦 แอฟริกาใต้* (30 วัน)

🇸🇨 เซเชลส์ (30 วัน)

🇰🇪 เคนย่า (90 วัน)

______________

🌍#ทวีปโอเชียเนีย (หมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก)

🇻🇺 วานูอาตู* (30 วัน)

______________

🌍#ประเทศที่สามารถขอ Visa on Arrival (VOA) ได้ ปี 2567*

🇯🇴 จอร์แดน (30 วัน)

🇴🇲 โอมาน (30 วัน)

🇳🇵เนปาล (15 / 30 / 90 วัน)

🇧🇴 โบลิเวีย (30 วัน)

🇫🇯 ฟิจิ (4 เดือน)

🇳🇺 นีอูเอ (30 วัน)

🇸🇧 หมู่เกาะโซโลมอน (3 เดือน)

🇹🇱 ติมอร์-เลสเต (30 วัน)

🇧🇭 บาร์เรน (14 วัน)

🇳🇮 นิการากัว (30 วัน)

เคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนเดินทาง

  • ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด: ก่อนตัดสินใจเดินทาง ควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับประเทศปลายทางให้ละเอียด เช่น ข้อกำหนดในการเข้าประเทศ ระยะเวลาที่อนุญาตให้อยู่ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
  • เตรียมเอกสารให้พร้อม: แม้ว่าจะไม่ต้องขอวีซ่า แต่ก็ควรเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น หนังสือเดินทางที่ยังมีอายุใช้งาน พาสปอร์ต, ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ, และหลักฐานการเงิน เพื่อยืนยันความประสงค์ในการเดินทาง
  • ทำประกันการเดินทาง: เพื่อความอุ่นใจ ควรทำประกันการเดินทางก่อนออกเดินทาง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิด

ข้อควรระวัง

  • ระยะเวลาที่อนุญาตให้อยู่: แม้ว่าจะไม่ต้องขอวีซ่า แต่แต่ละประเทศก็จะมีระยะเวลาที่อนุญาตให้อยู่แตกต่างกันไป ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าระยะเวลาที่เราจะเดินทางนั้นตรงตามข้อกำหนด
  • กฎหมายและวัฒนธรรม: ทุกประเทศมีกฎหมายและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนเดินทาง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
  • สถานการณ์ปัจจุบัน: สถานการณ์ทางการเมืองและสังคมของแต่ละประเทศอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควรติดตามข่าวสารก่อนตัดสินใจเดินทาง

สรุป

การเดินทางไปยังประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับขั้นตอนการขอวีซ่า อย่างไรก็ตาม ควรวางแผนการเดินทางให้รอบคอบ และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศปลายทางให้ละเอียด เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเทศใดเป็นพิเศษ สามารถสอบถามได้เลยนะคะ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • เว็บไซต์สถานทูต: เป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปยังประเทศนั้นๆ
  • เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ: มีข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศและคำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว
  • เว็บไซต์ท่องเที่ยว: มีข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแต่ละประเทศ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเดินทางของคุณนะครับ