ยูเนสโกให้ ภูพระบาทฯ ขึ้นแท่นมรดกโลก!

คิดจะพัก-ประเทศไทยสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการมรดกโลกมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นทะเบียน “อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท” จังหวัดอุดรธานี เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี” ส่งผลให้ประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกทั้งหมด 8 แห่ง และจังหวัดอุดรธานีกลายเป็นจังหวัดแรกของไทยที่มีแหล่งมรดกโลกถึง 2 แห่ง

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีและขอบคุณคณะกรรมการมรดกโลกที่ให้การรับรองคุณค่าของภูพระบาทฯ ซึ่งเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของวัฒนธรรมทวารวดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหล่งใบเสมาที่ใหญ่ที่สุดในโลก การขึ้นทะเบียนครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการอนุรักษ์และส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมให้เป็นสมบัติของคนรุ่นหลังและมวลมนุษยชาติ

อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาทพบร่องรอยทางอารยธรรมของมนุษย์สมัยโบราณบนภูแห่งนี้ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์สืบมาถึงวัฒนธรรมสมัยทวารวดี สมัยลพบุรี สมัยล้านช้าง และสมัยรัตนโกสินทร์ตามลำดับ กำหนดอายุราว 3,000–2,500 ปีก่อนประวัติศาสตร์มาแล้ว ซึ่งร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เช่น การใช้สีแดงเขียนภาพสีภาพสลักบนผนังถ้ำซึ่งพบมากกว่า 54 แห่ง การสลักหินรูปประติมากรรมพระพุทธรูปและเทวรูป การก่อสร้างศาสนาสถานสมัยทวารวดีด้วยอิฐ เช่น ถ้ำพระ พระพุทธบาทบัวบก อาคารรอบพระพุทธบาทหลังเต่า รอยพระพุทธบาทสมัยทวารวดีและล้านช้าง การดัดแปลงเพิงผาธรรมชาติ เช่น หอนางอุสา ใบเสมาหินขนาดใหญ่ ภาพแกะสลักนูนต่ำ เป็นต้น สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นสิ่งก่อสร้างด้วยฝีมือมนุษย์

ภูพระบาทฯ มีอะไรน่าสนใจ?

  • ประวัติศาสตร์ยาวนาน: ภูพระบาทฯ เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรทวารวดี
  • แหล่งใบเสมาที่ใหญ่ที่สุด: ภูพระบาทฯ เป็นที่ตั้งของแหล่งใบเสมาหินทรายจำนวนมาก ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม
  • ภูมิทัศน์ที่สวยงาม: นอกจากคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูพระบาทฯ ยังมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์

ภูพระบาทตามความเชื่อของชาวอีสานและชาวลาวในอดีตได้นำศาสนาสถานและร่องรอยโบราณสถานผูกเรื่องราวกับตำนาน และวรรณกรรมของชาวลุ่มแม่น้ำโขง ได้แก่ ตำนานอุรังคธาตุ ตำนานพระเจ้าเลียบโลก ที่กล่าวถึงพระพุทธเจ้าเสด็จมายังลุ่มแม่น้ำโขงมาโปรดสัตว์ที่ภูพระบาทอันเป็นที่อยู่ของพญานาค 2 ตนแล้วประทับรอยพระพุทธบาทไว้สำหรับสักการบูชา ได้แก่ รอยพระพุทธบาทบัวบก และรอยพระพุทธบาทบัวบาน หรือวรรณกรรมอีสานพื้นบ้าน เรื่อง พระกึดพระพาน มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับภูพระบาท เช่น นางอุสา ท้าวบารส เป็นต้น ตำนานและวรรณกรรมพื้นบ้านเหล่านี้ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากภูพระบาทต่อความเชื่อและจิตใจของชาวอีสานมาช้านาน

นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งมรดกโลก โดยรัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญกับการดำเนินการดังกล่าวทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เพื่อให้มรดกโลกเหล่านี้คงอยู่สืบไป

โอกาสทางการท่องเที่ยว

การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีและประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาเยี่ยมชมภูพระบาทฯ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

หมายเหตุ: ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภูพระบาทฯ และการท่องเที่ยว สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ [หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง]

#ภูพระบาท #มรดกโลก #ไทย #อุดรธานี #ท่องเที่ยว

ขอบคุณภาพจาก

จำลอง บุญสอง