คิดจะพัก-วัดนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ สมัยรัชกาลที่ 5 ในปี พ.ศ. 2449 เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลปราจีนบุรีเพื่อเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา พร้อมกับพระราชทานนามว่า “วัดจีนประชาสโมรสร”เชื่อกันว่าวัดนี้เป็นหนึ่งใน 3 วัดที่ประกอบกันขึ้นเป็นตัวมังกร กล่าวคือ หัวมังกรอยู่ที่วัดเล่งเน่ยยี่ กรุงเทพมหานคร หางมังกรอยู่ที่วัดเล่งฮัวยี่ จังหวัดจันทบุรี และท้องมังกรนั้นอยู่ที่วัดเล่งฮกยี่แห่งนี้นั่นเองกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา พร้อมกับพระราชทานนามว่า “วัดจีนประชาสโมรสร”
ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ ท้าวจัตุโลกบาลขนาดใหญ่ 4 องค์ ทำจากกระดาษที่ประตูทางเข้า พระประธาน 3 องค์และองค์ 18 อรหันต์ ทำด้วยกระดาษนำมาจากเมืองจีน รูปหล่อเทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่เซ่งเอี้ย) ที่อยู่ด้านขวาขององค์พระประธานและยังมีเทพเจ้าอีกหลายองค์ ตามคติจีน ระฆังใบใหญ่น้ำหนักกว่า 1 ตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ใบ ในโลกที่รอบระฆังมีอักษรมหาปรัชญา ปารมิตราสูตร ถือกันว่าผู้ได้ใดตีระฆังก็เหมือนกับการสวดมนต์ซึ่งได้บุญกุศล
นอกจากนี้ยังมีวิหารศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เช่น วิหารบูรพาจารย์ วิหารเจ้าแม่กวนอิม แกะสลักจากรากไม้ทั้งต้นอายุประมาณ 100 ปี วิหารตี่จั๊งอ๊วง สระนทีสวรรค์และพญามังกร สักการะพญามังกรอย่างไร ลูบหัวมังกรลง 3 ครั้งแล้วอธิษฐานขอเกี่ยวกับสติปัญญา และหน้าที่การงาน ลูบลำตัวของมังกรขึ้นตามเกล็ดของมังกร 3 ครั้งแล้วอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพร่างกาย ลูบหางมังกรขึ้นตามเกร็ดของมังกร 3 ครั้ง แล้วอธิษฐานเกี่ยวกับอนาคต ห้ามจับหรือแตะต้องหนวดมังกรโดยเด็ดขาด เพราะคนจีนเชื่อว่ามังกรจะหมดอิทธิฤทธิ์และจะขออะไร ไม่ได้ดังหวัง
วัดเล่งฮกยี่ตั้งอยู่ที่ถนนศุภกิจ ตำบลบ้านใหม่ ห่างจากศาลากลางจังหวัด 1 กิโลเมตร เป็นวัดจีนในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานที่ขยายมาจากวัดเล่งเน่ยยี่ในกรุงเทพฯ
tatchachoengsao #amazingthailand #เส้นทางสายมู #เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรม