คิดจะพัก-ททท.ภูมิภาคภาคกลาง ชวนเที่ยวเมืองรอง ‘ต้องไป’ ที่มีความเท่ไม่เป็นสองรองใคร ใน เทศกาลแสง สี สิงห์ (Let’s Glow Singburi) ที่จัดโดย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปลุกสีสันของเมืองสิงห์ด้วยศิลปะของแสงและสี ตั้งแต่ศาลากลางหลังเก่าไปตลอดแนวถนนวิไลจิตต์ ระยะทาง 3 กิโลเมตร ในอำเภอเมือง สิงห์บุรี ระหว่างวันที่ 18 – 27 สิงหาคม 2566
แสง สี สิงห์ เทศกาลท่องเที่ยว ’สิงห์บุรี’ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18- 27 สิงหาคม 2566 เทศกาลท่องเที่ยว ’สิงห์บุรี’ 18- 27 สิงหาคมนี้ เป็นการปลุกสีสันของเมืองสิงห์ ด้วยศิลปะของแสงและสี ตั้งแต่ศาลากลางหลังเก่าไปตลอดแนวถนนวิไลจิตต์
10 ไฮไลท์ 10 วัน 10 คืน 10 ไฮไลท์ แสง สี สิงห์ เทศกาลท่องเที่ยว ’สิงห์บุรี’ 18- 27 สิงหาคม 2566 มีดังนี้
1.ชมนีออนไลท์ที่โรงหนังเมืองทองรามา เป็นการ
ปลุกตำนานโรงหนังคู่รักรามาในอดีตที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองทองรามาที่ปิดกิจการไปนานหลายสิบปีให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วย นีออน ไลท์ ศิลปะกึ่งถาวร ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของสิงห์บุรีผ่านสัญลักษณ์
บุคคลและรอยสัก แทนความหมายของวีรกรรมกล้าหาญของชาวบ้านบางระจัน
ควายเขางาม แทนความอุดมสมบูรณ์ของท้องนาเมืองสิงห์
เมฆรูปหัวใจ และ นก หมายถึงความสุข พวงมโหตร เครื่องแขวนของไทยหมายถึง มิตรจิต มิตรใจ ดอกทองอุไร คือ ดอกไม้ประจำจังหวัด
ปลาช่อนแม่ลา ปลาที่มีชื่อเสียงของสิงห์บุรี
2. นีออน ไลท์ ที่มิวเซียมสิงห์บุรี
เข้าชมมิวเซียมสิงห์บุรียามราตรี พร้อมชม นีออน ไลท์ ประดับอาคารที่เคยเป็นศาลาการหลังเก่า (ร.ศ.130) ของจังหวัดสิงห์บุรี
เก็บภาพความงามแล้วอย่าลืมเข้าชมนิทรรศการภายใน เล่าเรื่องราวของสิงห์บุรีผ่านประวัติศาสตร์ สังคม ผู้คน ภูมิปัญญา และเมืองในอดีตจนถึงปัจจุบันได้อย่างทันสมัย น่าติดตาม
3. Crosswalk Art ศิลปะกึ่งถาวรบนพื้นถนน 2 แห่ง ได้แก่ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 และ ถนนนายจันทร์หนวดเขี้ยว
ผลงานเปลี่ยนถนนเป็นผืนผ้าใบ ระบายสีเป็นลวดลายกราฟฟิกรูปหัวใจ หัวสิงห์ ร่วมกับศิลปะออกแบบตัวอักษร ที่สะท้อนให้เห็นจิตใจที่เข้มแข็ง โอบอ้อมอารี และมีความสุขของคนสิงห์บุรี
4. ประติมากรรมซ่อนแอบ นับเป็นศิลปะในรูปแบบ Installation Art เล่นสนุกกับพื้นที่ด้วยการนำประติมากรรมรูปสิงห์ 4 ตัวไปตั้งอยู่ใน 4 จุดให้ค้นหากัน ชี้เป้าให้ล่วงหน้าไปตามหากันที่ ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ถนนนายจันทร์หนวดเขี้ยว ถนนสันติสุข และถนนวิไลจิตต์หน้าโรงแรมไชยแสงพาเลส
5. พบกับ ‘The Improviser’ วงดนตรีจากบาร์วัยเก๋า หลังจากถ่ายรูปนีออน ไลท์ที่หน้าโรงหนังแล้ว อย่าลืมเดินมาด้านข้างโรงหนัง เข้ามาสัมผัสบรรยากาศของวรินทราห้องอาหารที่เปรียบเสมือนบาร์ในยุคโรงหนังเฟื่องฟู ในเทศกาลแสงสีสิงห์นี้ คุณลุงจรินทร์และคุณลุงจรูญ สองพี่น้องแห่งวง ‘The Improviser’ จะเปิดการแสดงให้ชม ในช่วง 19.00-22.30 น. โดยจะเปิดรับเพียง 60 ที่นั่งต่อวันเท่านั้น
6. เวิร์คช็อปงานศิลปะเท่ๆ กับ บ้านควายอาร์ต และลงมือทำพวงมโหตร ศิลปะการพับ ตัดกระดาษให้กลายเป็นเครื่องแขวนประดับตกแต่งในงานเทศกาลแบบไทย โดย ครูอำภา พิลาวัลย์ และ ครูบังอร จันโนทัย
7. เข้าวัดยามราตรี มาชมการประดับไฟที่โบสถ์เก่าแก่เกือบ 200 ปี ที่วัดพรหมสาครและชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ล้ำค่าที่วัดสว่างอารมณ์
8. ร่วมสนุกกับแอปพลิเคชั่น WABU เดินเที่ยวด้วยตัวเองตาม Map ที่พาเราไปตามสถานที่ท่องเที่ยวรวมไปถึงเส้นทางอาหารอร่อย
9. ชิมอาหารอร่อย และ ช้อปปิ้งของดี ของสิงห์บุรีในบรรยากาศตลาดย้อนยุค
10. เดินถ่ายรูปชมอาคารบ้านเรือน ที่ชวนให้หวนคิดถึงวันวาน เช่น โรงแรมสันติสุขที่ยังคงราคาห้องพักอยู่ที่ 50 บาท เก้าอี้ไม้สำหรับผู้โดยสารในสถานีขนส่ง ร้านเสริมสวยเลิศลักษณ์ที่ผู้เข้าประกวดนางงามต้องมาจองคิว ฯลฯ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม “SangSeeSing-แสงสีสิงห์”
