คิดจะพัก-ปิดฉากไปอย่างสุดประทับใจ.. กับกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ “YEC Green Road Trip” เชื่อมความสัมพันธ์ภาคกลาง – ภาคตะวันออกระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2565 (เส้นทาง สระแก้ว – ปราจีนบุรี – นครนายก)

สำหรับ กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ ภายใต้ชื่อ “YEC Green Road Trip”ในครั้งนี้ มุ่งเน้นในการใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC สมุทรสงคราม สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้ง 4 จังหวัด ได้เชื่อมความสัมพันธ์อันดี พร้อมกับเปิดโอกาสด้านการค้าขายร่วมกันในลักษณะกิจกรรม Business Matching ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมทั้งยังสามารถเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว ในพื้นที่ภาคกลางเชื่อมโยงกับภูมิภาคตะวันออกให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคกลาง ในฐานะหน่วยงาน ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในพื้นที่ภูมิภาคภาคกลางให้เกิดความยั่งยืน จึงมีแนวทางที่จะผลักดันให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยววิถีใหม่ตามแนวคิด “BCG Model” กระตุ้นคนไทยเดินทางท่องเที่ยวบ่อยครั้งขึ้นพร้อมสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความสมดุลระหว่าง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ประกอบกับชูคุณค่าทรัพยากรที่มีอยู่ด้วยการนำเสนอเรื่องราวในมุมมองใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคภาคกลาง ต่อยอดมาตรฐานของสินค้าให้เกิดความเข้มแข็งควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม

โดยมีนางสาวจุฑาทิพย์ เจริญลาภ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และคุณ ไมเคิล จาง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด ตีธงปล่อยขบวนรถกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางรถยนต์ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด นำโดย คุณไมเคิล จาง ผู้อำนวยการฝ่ายแบรนด์และสื่อสารองค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้อนุเคราะห์พาหนะรถยนต์ไฮบริดยี่ห้อ Haval รุ่น Jolion จำนวน 7 คัน เพื่อใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวแบบประหยัดพลังงาน

วันแรกของการเดินทาง เราประเดิมแหล่งท่องเที่ยวแรกที่ โดยการไปกราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ และเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ และรวมพลังของประชาชน ชาวจังหวัดสระแก้ว ในอดีตกาลอำเภอวัฒนานคร เป็นพื้นที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เคยเสด็จมาประทับในราชการสงคราม ในดินแดนภาคบูรพาเมื่อปี พ.ศ. 2136 พระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชองค์นี้ทรงมีลักษณะเป็นเอกลักษณ์ เป็นหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ประทับยืนชูดาบเหนือศิรเศียร แสดงพระราชอำนาจในการปกครอง ปกป้องรักษาพสกนิกรของพระองค์

จุดที่สอง ที่พวกเราคาราวาน แวะกราบสักการะขอพร หลวงพ่อขาว พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่ วัดนครธรรม จังหวัดสระแก้ว วัดแห่งนี้ เป็นวัดโบราณเก่าแก่ มีหลวงพ่อขาวหรือ หลวงพ่อปูน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปโบราณนั่งขัดสมาธิสร้างด้วยปูนขาวจากหนองดินจี่ที่มีอายุ เก่าแก่กว่า 100 ปี หลวงพ่อขาวหรือหลวงพ่อปูน มีชื่อเสียงด้านอภินิหาร ความศักดิ์สิทธิ์เมื่อครั้งที่ได้อัญเชิญหลวงพ่อขาวจากวัดร้างบ้านจิกในปี พ.ศ. 2468 ในขณะอัญเชิญ มีปรากฏการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้น พระภิกษุสงฆ์ได้เห็นน้ำพระเนตรของหลวงพ่อขาวไหลออกมาอย่างชัดเจน พร้อมกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงเป็นเรื่องกล่าวขานถึงอภินิหารของหลวงพ่อขาวมาจนปัจจุบัน ทางวัดนครธรรม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมสักการะทุกวันไม่มีวันหยุด

ปราสาทสด๊กก๊อกธม สมัยก่อนชาวท้องถิ่นเรียกว่า ปราสาทเมืองพร้าว ซึ่งเป็นภาษาเขมร สด๊ก หรือ สด๊อก แปลว่า รกทึบ ก๊อก แปลว่า ต้นกก ธม แปลว่า ใหญ่ สด๊กก๊อกธม จึงหมายถึง ปราสาทที่มีต้นกกขึ้นรกทึบบริเวณหนองน้ำใหญ่ ปราสาทแห่งนี้ก่อสร้างด้วยหินและศิลาแลง แบบสถาปัตยกรรมเขมร ประกอบด้วยอาคารสำคัญ ได้แก่ ปราสาทประธาน บรรณาลัย 2 หลัง ล้อมรอบด้วยระเบียงคต กำแพงแก้ว ก้อนหินต่างๆในปราสาทมีการแกะสลักลวดลายงดงามบนเนื้อหินเกี่ยวกับศาสนาพราหมณ์ ฮินดู และลวดลายพันธุ์พฤกษา ใกล้เคียงกับศิลปกรรมเขมรแบบคลังผสมกับบาปวน ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15 – 16 ปราสาทสด๊กก๊อกธม นับว่าเป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์เชื่อมต่อกับโบราณคดี บอกเรื่องราวกษัตริย์ขอมและปรัชญาการก่อสร้างในยุคก่อน โดยเป็นหนึ่งในปราสาทที่ได้รับการบูรณะในรูปแบบ “อนัสติโลซิส” (Anastylosis) ซึ่งเป็นมาตรฐานโลกของการซ่อมแซมสิ่งก่อสร้างอารยธรรมเก่าแก่ กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทสด๊กก๊อกธมเป็นโบราณสถานของชาติมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2478 ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2560 จึงได้ประกาศให้ปราสาทสด๊กก๊อกธมเป็นอุทยานประวัติศาสตร์แห่งใหม่ แห่งที่ 11 ของประเทศไทย

ปิดท้ายการเที่ยวในวันนี้ที่ มาลีเมล่อน เป็นสวนเกษตรผสมผสาน ที่ตำบลฟากห้วย อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มาลีฟาร์มแห่งนี้ปลูกเมล่อน, มะเขือเทศ แตงโม, อินทผาลัม ฯลฯ บนพื้นที่ 40 ไร่ เป็นเมล่อนคุณภาพดี ปลูกในระบบโรงเรือนปลอดสารเคมี เรียบง่าย ประหยัด

เราเริ่มวันที่2 ไปกราบสักการะ หลวงปู่111ปี หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร เกจิ6แผ่นดิน ที่ วัดป่าใต้พัฒนาราม ได้กราบสักการะและสนทนาธรรมกับหลวงปู่ท่าน อีกทั้งหลวงปู่บุดดา ท่านยังเมตตามอบวัตถุมงคล ไว้เป็นที่ระลึกและศิริมงคล จากมือของท่านเองอีกด้วยครับ หลวงปู่ท่าน ใช้เวลาไม่นาน คณะของเรา ก็เดินเยี่ยมชมบริเวณวัด ทั้งพระอุโบสถที่สวยงาม และต่างร่วมทำบุญกันตามจุดต่างๆ ตามกำลังศรัทธาครับ จากนั้นคณะของเราเดินทางไปกันที่

พุทธอุทยานหลวงปู่สด วังพญานาค 4 ตระกูลเป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆมีความสวยงามเป็นอย่างมากบรรยากาศร่มรื่น มีรูปหล่อปูนปั้น พญานาคทั้ง4ตระกูล ในรูปกายต่างๆ ที่สวยงามใหญ่โต เหมือนกันเรานั้น กำลังเดินอยู่ในเมืองบาดาล พุทธอุทยานหลวงปู่สด วังพญานาค 4 ตระกูลอุทยานแห่งนี้ที่สร้างขึ้นมาจากพื้นที่นารกร้างเก่าของนายณรงค์ เพียรผักแว่น หรือช่างเอ๋ ศิลปินผู้มีอาชีพเป็นช่างปั้นงานศิลปะระดับเอกอุฝีมือเยี่ยมอีกคนหนึ่งของไทย

ในช่วงบ่ายกิจกรรมเวิร์คชอป ทำผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดสานใบลาน ที่กลุ่มจักสานใบลาน บ้านวังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งได้รับความสนใจ จากคณะของเราเป็นอย่างมาก
จุดสุดท้าย สถานที่ท่องเที่ยวในวันนี้คือ วัดรัตนเนตตาราม หรือ วัดล้านหอย ตั้งอยู่ที่ ตำบลสำพันตา อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นวัดที่นำเอาเปลือกหอยนับเป็นล้านๆตัว มาประดับตกแต่ง ให้เป็นงานสถาปัตยกรรมต่างๆวัด ไม่ว่าจะเป็น หอพระแก้ว 3 ฤดู และประติมากรรมทางพระพุทธศาสนา พระพุทธรูปปางต่างๆ พระนอนขนาดใหญ่ และสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้ง วิหาร มณฑป และ หอระฆัง ที่ตกแต่งด้วยเปลือกหอยหลากหลายชนิด ทั้งหมดนี้เป็นผลงานที่สร้างมาจากท่านเจ้าอาวาส และพระลูกวัด

วันสุดท้ายก่อนกลับ เราแวะชม ภูมิภูเบศร เป็นอุทยานการเรียนรู้สมุนไพรและภูมิปัญญาสุขภาพบางเดชะ ตำบลบางเดชะ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี เป็นสถานจุดภายในพิพิธภัณฑ์และอุทยานฯ ได้จัดส่วนการแสดงออกเป็น 3 โซนด้วยกัน


โซนที่ 1 พิพิธภัณฑ์หมอไทย (หมื่นชำนาญแพทยา) หรือเรือนหมอพลอย หมอหลวงรัชกาลที่ 5 เป็นเรือนไม้เดิมอายุกว่า 100 ปี บ้านเป็นยา ที่สร้างความสมดุลให้กับธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย ภายในเรือนนี้มีพื้นที่บอกเล่าเรื่องราวการเป็นหมอไทยสมัยก่อน เครื่องมือยา ตำรับยาโบราณ การแพทย์ 3 ระบบ พร้อมกับกิจกรรม คูณธาตุเพื่อเจียดยาปรับธาตุเฉพาะรายสูตรลับเฉพาะของหมอยาปราจีนบุรี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการจัดยาเฉพาะบุคคลแบบแผนปัจจุบันซึ่งแผนไทยมีมานานแล้ว โซนที่ 2 สวนสมุนไพร มีการจัดสมุนไพรเรียนรู้ตามกลุ่มโรค/อาการ สมุนไพรให้สี และสมุนไพรสีดำที่คนไทยเชื่อว่าจะช่วยขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไปได้ โซนที่ 3 คือ โซนไห ศูนย์รวมไหที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและในอาเซียน

และกิจกรรมพิเศษ ที่จัดขึ้นเพื่อคณะของเราในวันนี้ครับ กิจกรรมเวิร์คชอป ทำน้ำสมุนไพรด้วยตนเองไปชมวิวทิวทัศน์ ที่สวยงามบนสันเขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นเขื่อนคอนกรีตอัดบดยาวที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,720 เมตร ความความสูงจุดสูงสุด 93 เมตร ความจุน้ำมากถึง 224 ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนขุนด่านนี้เป็นเขื่อนซึ่งรองรับน้ำมาจากด้านบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางน้ำตกเหวนรก ก่อนเก็บกักและผันระบายลงสู่แม่น้ำนครนายก โดยอดีตก่อนจะสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ มีเขื่อนขนาดเล็กเรียกว่า เขื่อนคลองท่าด่าน แต่ไม่สามารถหยุดยั้งปัญหาน้ำท่วมได้ กระทั่งมีการสร้างเขื่อนใหม่ทับของเก่า กลายเป็นเขื่อนขุนด่านปราการชลในปัจจุบัน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ สร้างขึ้นเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพัฒนางานด้านชลประทานก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ“ เนื้อหาการจัดแสดงนิทรรศการถาวรในพิพิธภัณฑ์เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริเขื่อนขุนด่านปราการชล ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ธรณีวิทยา ปฐพีวิทยา รวมถึงพืช และน้ำ อันเป็นลักษณะโดยทั่วไปของจังหวัดนครนายกตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ตลอดจนข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ โบราณคดี และตำนานเมืองนครนายก เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลและแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของจังหวัดนครนายกรวมทั้งเป็นการปลูกจิตสำนึกรักบ้านเกิดและสร้างความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่นอีกด้วย
ขอขอบคุณ ททท.ภูมิภาคภาคกลาง