คิดจะพัก – ทริปเที่ยวโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้ เราเดินทางโดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ สายการบินระหว่างประเทศสัญชาติสิงคโปร์ ที่จัดว่าเป็นสายการบินพรีเมียมระดับเวิร์ลคลาส มีเส้นทางบินหลายประเทศ หนึ่งในนั้น คือญี่ปุ่น ซึ่งเที่ยวบินที่เราใช้บริการคือเส้นทางบินกรุงเทพฯ – โอซาก้า แวะพักและต่อเครื่องที่ท่าอากาศยานชางงี เป็นเที่ยวบินที่บอกเลยว่าดีต่อใจ เครื่องบินลำใหญ่ ที่นั่งกว้าง สบาย มีหมอนผ้าห่ม อาหาร ของทานเล่น และความบันเทิงหลากหลาย
เกริ่นเล็กๆ ก่อนรีวิว
การไปเที่ยวโอซาก้าครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 2 ของพวกเรา เพื่อกลับไปเก็บตกสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกหลายแห่งที่ยังไม่เคยไป รวมทั้งความตั้งใจใหม่ที่จะไปขอพรเรื่องค้าขาย …ขอให้ขายดี ?
ด้วยภารกิจมากมาย ทำให้การวางแผนต่างๆ ล่าช้ากว่าครั้งก่อนๆ ที่เคยเตรียมตัวจองตั๋ว จองที่พักไว้นานกว่า 4 เดือน …แต่ก็ใช่ว่าจะหาตั๋วเครื่องบิน และที่พักราคาถูกไม่ได้ มีหลายสายการบินจัดโปรโมชั่น แต่เมื่อลองเปรียบเทียบกันดูแล้ว จากเงื่อนไข และเวลา ก็มาจบลงที่ สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ ถึงแม้ว่าจะต้องแวะพักและต่อเครื่องที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ไม่หวั่น เพราะประสบการณ์ต่อเครื่องเราเคยเจอมาแล้ว (ที่เมียนมาร์)
กว่าจะจองได้ เกือบถอดใจ
ไม่รู้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เราเข้าไปทำการจองที่เว็บไซต์ของสายการบิน ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง จนจบ แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งทำการจองถึง 2 ครั้ง (เว้นวัน) ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคา 2019 โดยราคาที่เข้าไปจองทั้ง 2 ครั้ง ไม่เท่ากัน …ครั้งแรก ราคาประมาณหมื่นสามกว่าๆ ส่วนครั้งที่สอง ราคาขึ้นมาเกือบสองหมื่นบาท จึงต้องขอพักการจองไว้ก่อน …แอบคิดในใจว่า ระบบออนไลน์ คงมีปัญหา เพราะเป็นช่วงใกล้วันหยุดยาวปีใหม่ หรือเป็นไปได้ว่า เน็ตเราเองที่มีปัญหา …แต่ยังไม่ถอดใจ รอหลังปีใหม่อีกสักครั้ง ถ้าราคายังสูงอยู่ คงต้องดูสายการบินอื่น
ขอลองอีกสักครั้ง ? ปรากฎว่า จองได้ในราคาหมื่นห้ากว่าๆ … จองสำเร็จ !
ราคาหมื่นห้ากว่าๆ ที่ว่านั้น เป็นราคาที่รวมทุกอย่างแล้ว น้ำหนักสัมภาระ 30 กิโลกรัม แต่ถ้าอยากได้ที่นั่งถูกใจ ต้องเสียงค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งเรายอมเสีย เพราะอยากนั่งใกล้กัน โซนด้านหน้า แต่ ณ ตอนนั้น จะเลือกให้ถูกใจ มีความเป็นไปได้น้อยมาก เสียที่นั่งอย่างที่ต้องการไม่มากแล้ว เลือกเท่าที่มีนั่นแหละ แต่ก็ยังแอบคิดในใจว่า อย่าให้นั่งตรงปีกเลย…โดนเต็มๆ
เราเลือกจองที่นั่งเฉพาะเส้นทางสิงคโปร์ โอซาก้า (ราคาที่นั่งละ 305 บาทต่อเที่ยว) ขาไป เลือกที่นั่ง 53 ส่วนขากลับ เลือกที่นั่ง 54 ตรงปีกทั้งขาไป และขากลับ …แอบเศร้า
ส่วนที่นั่งเส้นทางกรุงเทพฯ สิงคโปร์ เราไม่ได้จอง เพราะเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง จะให้นั่งตรงไหนก็ไม่เป็นไร (แปปเดียว)… ขาไป ได้นั่งโซนด้านหน้า นั่งคู่กัน 2 คู่ ติดหน้าต่าง เลขที่ 45 และ 46 ส่วนที่นั่งติดทางเดินมีคนอื่นนั่งด้วย …ขากลับได้นั่งติดกันเรียง 4 คน แต่เป็นที่นั่งท้ายเครื่องเลยค่ะ เลขที่ 73 …ต้องกินยาเมารถ ก่อนเครื่องออก เพราะเคยมีประสบการเมาเครื่องมาแล้ว
เช็คอินออนไลน์
ก่อนการเดินทาง จะมีเมล์จากสายการบิน ส่งลิงก์ให้เข้าไปกรอกข้อมูลเช็คอินล่วงหน้า …ขาไป เช็คอินจากที่บ้าน ผ่านคอมพิวเตอร์ สะดวกกว่ามือถือ แต่ว่าขากลับ หาคอมพิวเตอร์ไม่ได้ ใช้มือถือเช็คอินก็สะดวก ง่ายเพียงปลายนิ้ว ?
เพื่อความไม่ประมาท ทั้งขาไป ขากลับ เราจะไปถึงสนามบินก่อนเวลาออก 3 ชั่วโมง …มีเวลาเดินชิลล์ในสนามบิน
น้ำหนักสัมภาระ
ต้องบอกว่า การเดินทางส่วนใหญ่ของเรา เรามักจะถือกระเป๋าขึ้นเครื่อง 2 ใบ เป็นเป้เล็กๆ ไว้ใส่กระเป๋าเงินเล็กๆ และพาสปอต ส่วนอีกหนึ่งใบก็เป็นกระเป๋าสะพาย หรือเป้ที่ใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ไว้ใส่เสื้อกันหน้า เอกสาร และสิ่งของจำเป็นที่สามารถหยิบจับมาใช้ได้ ซึ่งน้ำหนักของทั้ง 2 ชิ้นดังกล่าว ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ตามข้อกำหนดของสายการบิน …ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.singaporeair.com/en_UK/th/travel-info/baggage/cabin-baggage/
ส่วนสัมภาระที่ต้องโหลดใต้ท้องเครื่อง จะเป็นกระเป๋าล้อลาก ที่ไม่ใหญ่มากนัก (24 นิ้่ว) และน้ำหนักก็ไม่มากเกินข้อกำหนดของสายการบิน (ไม่เกิน 30 กิโลกรัม แบบ Economy) …. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.singaporeair.com/en_UK/th/travel-info/baggage/checked-baggage/
โดยปกติ เราจะมีประเป๋างอกติดไปด้วย ไว้ใส่ของกิน ของฝาก ซึ่งจะต้องโหลดในขากลับด้วย แต่ครั้งนี้ ไม่มีงอกค่ะ เพราะไม่ค่อยได้ซื้ออะไรมากนัก
เริ่มต้นการเดินทาง
ไฟล์ท กรุงเทพฯ – สิงคโปร์ ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 21.10 น. (ใช้เวลา 2 ชั่วโมง เดินทางถึงสิงคโปร์) …หลังจากผ่าน ตม. แล้วก็เดินไปรอหน้า Gate
ได้เวลาขึ้นเครื่อง … ฟูลเซอร์วิส มีอะไร
ก่อนเข้าไปภายในเครื่องบิน มีหูฟังให้หยิบ (มีทุกเที่ยวบิน) …ภายในเครื่อง ที่นั่งค่อนข้างกว้าง ไม่อึดอัด (ช่วงกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ที่นั่งค่อนข้างเล็กกว่าช่วงสิงคโปร์ โอซาก้า) มีความบันเทิงอยู่ด้านหน้า …ดูหนังกันดีกว่า?
มีที่ชาร์ตโทรศัพท์ด้วยค่ะ … เครื่องออกได้สักระยะ ก็ชาร์ตกันเลย
หลังจากเครื่องออกไม่นาน มีบริการเครื่องดื่ม ของขบเคี้ยว …ก่อนถึงสิงคโปร์ ประมาณ 1 ชั่วโมง มีอาหารมาเสิร์ฟ ให้เลือก 2 แบบ (เนื้อ กับ ไก่) …อิ่มไปหนึ่งมื้อ
เมื่อถึงท่าอากาศยานชางงี เครื่องบินลงจอดที่เทอร์มินอล 3 พวกเราต้องรีบเดินเพื่อให้ทันเวลาที่มีเพียง 50 นาที …เดินอย่างรวดเร็ว เพื่อเช็ค Gate ที่จะต้องไปต่อเครื่อง จากหน้าจอแสดงข้อมูลการเดินทาง (Departure Information) ที่ตั้งอยู่ระหว่างทางผ่าน …หาไม่ยาก?
เมื่อได้ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามป้ายไปขึ้นรถที่วิ่งเชื่อมไปเทอร์มินอล 1 Gate C22 (เราอยู่เทอร์มินอล 3) ซึ่งใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 10 นาที … ต่อเครื่องไม่ยากอย่างที่คิด
ข้ามขั้นตอนเล็กๆ ไปอยู่บนเครื่องกันเลยค่ะ …
หลังจากเครื่องออก มีเครื่องดื่ม ของขบเคี้ยว มาเสิร์ฟ รวมถึงรายการอาหาร ผ้าร้อน(เหมือนผ้าเย็น) มาแจก ก่อนที่หลายคนจะหลับ …บางคนไม่ง่วงก็ดูหนังไปเรื่อยๆ หิวน้ำก็ขอพนักงานได้ตลอดทั้งคืน
ใกล้ถึงโอซาก้า มีอาหารมาเสิร์ฟ 2 แบบให้เลือก คือ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไม่มีข้าว) กับแจแปนนิส (มีข้าว)
เดินทางถึงโอซาก้าในเวลา 08.22 น. หลังจากผ่าน ตม. อย่างรวดเร็ว (คนน้อย) ก็เดินไปรอรับกระเป๋า เข้าห้องน้ำ แล้วก็ไปรับตั๋วรถไฟ Nankai ที่จองไว้จากกรุงเทพฯ ผ่าน Klook.com …จุดหมายต่อไป คือ นัมบะ (เรื่องเที่ยวจะเล่าในคราวต่อไป)
วันเดินทางกลับ
เพื่อให้จุใจกับบริการแบบฟูลเซอร์วิส ขอเล่าบรรยากาศการเดินทางขากลับกรุงเทพฯ ให้จบในตอนเดียว เผื่อว่าใครสนใจ…มีเกร็ดเล็กๆ ระหว่างการเดินทางภายในสนามบินคันไซ และสนามบินชางงี มาฝากอีกด้วย
เช็คอินออนไลน์ โหลดกระเป๋าไม่ยุ่งยาก คนน้อย
เราเช็คอินออนไลน์ ไว้ตอนกลางคืนจากที่พักก่อนวันเดินทางกลับไทย …ตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปถึงสนามบินก่อนเครื่องออก 3 ชั่วโมง (ถึงสนามบิน 08.10 น. เครื่องออก 11.00 น.)
หลังจากผ่าน ตม. แล้ว พวกเราก็เดินไปที่ Gate 37 เพื่อรอขึ้นเครื่อง แต่ระหว่างรอ มีเวลาเหลือเกือบชั่วโมง …ขอเดินสำรวจ รอบๆ Gate และบริเวณใกล้เคียง เพื่อดูว่ามีอะไรให้ซื้อได้บ้างกับเงินเยนที่เหลือเป็นเหรียญ และอีกจำนวนหนึ่งในบัตร SUICA
ส่วนเงินเหรียญ ที่มีอยู่บ้าง ก็หยอดในตู้อัตโนมัติ (เพิ่มมูลค่าในบัตร SUICA) …ตู้ที่ว่านั้น อยู่ด้านหน้า Family Mart ที่เราจะนำไปซื้อสินค้ากันค่ะ
Family Mart ที่อยู่ระหว่าง Gate 39 และ Gate 40 เราสามารถใช้ SUICA ซื้อสินค้าได้ มี 4 ใบ ใช้ได้ทุกใบ…ซื้อสินค้าได้หลายอย่างจากเงินที่มีในบัตร
ได้เวลาขึ้นเครื่อง…
ต้องบอกว่า มื้อเช้าเราไม่ได้กินอาหารหนัก นอกจากขนมปัง และกาแฟ ด้วยหวังว่า สายการบินน่าจะเสิร์ฟอาหารหลังจากเครื่องออกได้ไม่นาน …แต่ไม่ใช่ ? กว่าจะเสิร์ฟอาหารหลักได้ก็ครึ่งทางก่อนถึงสิงคโปร์ …มีเสิร์ฟน้ำกับของขบเคี้ยว (ถั่ว) ให้รองท้อง …แอบหิว ?
อาหารอร่อย มีหลายอย่าง รวมทั้งไอครีมเพิ่มให้ทั้ง 2 มื้อ (โอซาก้า – สิงคโปร์ และ สิงคโปร์ – กรุงเทพฯ) …เราเลือกแบบอินเตอร์เนชั่นแนล
ต่อเครื่องง่ายนิดเดียว
เนื่องจากวันเดินทางกลับอยู่ในเวลากลางวัน ดังนั้น หน้าจอที่อยู่ด้านหน้า มีประโยชน์มาก นอกจากจะดูหนังจบไป 2 เรื่องแล้ว ยังมีข้อมูลไฟล์ทบินให้เช็คก่อนถึงสนามบินอีกด้วย …ดูได้จาก My Flight เลือก Onward Connections เลือก BKK Bangkok ซึ่งจะมีข้อมูลบอก วัน เวลา เทอร์มินอล และ Gate …ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเดินทางที่สนามบินเหมือนขาไป
ที่บอกว่าง่ายก็คือ เครื่องบินที่เดินทางจากโอซสก้า จะจอดที่เทอร์มินอล 2 Gate F60 (มีเวลาต่อเครื่อง 2 ชั่วโมง) และข้อมูลการต่อเครื่องจากสิงคโปร์ ไปกรุงเทพฯ ที่แสดงก็คือ เทอร์มินอล 2 Gate F60 โดยเราสามารถรอต่อเครื่องที่หน้า Gate ได้เลย ไม่ต้องเดินไกล…แต่ Gate ยังไม่เปิด ?
มีเวลาเหลือ ขอเดินสำรวจสนามบินชางงีกันหน่อย … เดิน ไป-กลับ ใกล้ๆ
สิงคโปร์แอร์ไลน์ เป็นอีกหนึ่งสายการบินที่เราขอบันทึกไว้ในใจ สำหรับเป็นตัวเลือกในการจองครั้งต่อไป …ประทับใจบริการ