คิดจะพัก – วันนี้เราจะพาไปเที่ยว จังหวัดนนทบุรี ใน สถานที่สำคัญ คือ วัดชมภูเวก พระแม่ธรณีบิดมวยผมงามที่สุดในโลก ร้านอาหารสวนทิพย์ อาหารไทยโบราณมีรางวัลมิชลินสตาร์การันตี วัดปรมัยยิกาวาส เจดีย์เอียงเอกลักษณ์เกาะเกร็ด ร้านโรงสี สตูดิโอ โรงสีเก่าอายุกว่า100ปีถูกรีโนเวทใหม่เป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร และโฮมสเตย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเช็คอินแห่งใหม่…ธรรมชาติสวย อากาศบริสุทธิ์
เรื่องเล่านี้อาจจะยาวไปนิด อย่าเพิ่งท้อใจ อ่านให้จบ รับรองว่า ในหนึ่งวัน กับสถานที่สำคัญและสิ่งที่น่าสนใจในจังหวัดนนทบุรี มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ที่หลายคนยังไม่รู้จัก (รวมเรา) ..ค่อยๆ อ่านไปค่ะ
หมุดแรกอยู่ที่ “วัดชมภูเวก”
เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ช่วงสายๆ โดยมีจุดหมายแรกที่ต้องแวะ คือ ชมจิตรกรรมฝาผนัง ที่งดงาม ตามรอยประวัติศาสตร์…มีอะไรบ้าง?
รับฟังเรื่องราวความเป็นมาและสิ่งสำคัญภายในวัดจาก อาจารย์วีระโชติ ปั้นทอง ผู้นำชุมชนวัดชมภูเวก และอาจารย์พิศาล บุญผูก ผู้เชี่ยวชาญด้านมอญศึกษาและวรรณกรรมมอญจากคัมภีร์ใบลาน …มัคคุเทศน์พาชม ?
ประวัติความเป็นมา
วัดชมภูเวก เดิมชื่อ วัดชมภูวิเวก เป็นวัดเก่าสร้างมานาน นักประวัติศาสตร์ นักโบราณคดีประมาณว่า น่าจะอายุราว 400 ปี โดยพิจารณาจากรูปแบบสถาปัตยกรรม ปฏิมากรรมแบบตะวันตก ซึ่งเป็นศิลปะตามพระราชนิยม สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (วิหาร)
ต่อมามีชาวมอญอพยพมาอยู่ที่บ้านท่าทราย วัดชมภูเวกขณะนั้นอาจจะร้างหรือทรุดโทรมมาก ชาวมอญจึงช่วยกันบูรณะจนเป็นวัดโดยสมบูรณ์ และได้สร้างพระธาตุมุเตา เป็นศูนย์รวมจิดใจกราบไหว้บูชา และเป็นที่ระลึกถึงบ้านเกิดเมืองนอนของชาวมอญ (สันนิฐานว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์)
สิ่งที่สำคัญของวัดชมภูเวก
พระธาตุมุเตา …สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาของชาวมอญ
อุโบสถเก่า …โบราณสถาน
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปบางมารวิชัย “พระพุทธชนะมาร” ศิลปะสุโขทัย
- มีบันไดโค้งหน้าประตูอุโบสถ (ซึ่งไม่เหมือนกับอุโบสถของวัดอื่น) เรียกว่า ขอบจักรวาล ส่วนจิตรกรรมและโบราณวัตถุที่เราจะเข้าไปชมนั้น อยู่กลางของจักรวาล (จิตนาการ?)…ก้าวข้ามจักรวาลของสิ่งศักดิ์
- สถาปัตยกรรมผสมผสาน ซุ้มประตู หน้าต่าง รูปทรงแบบยุโรป ลวดรายประดับด้วยดอกไม้ ใบไม้ ต่างกับของไทยที่เป็นลวดลายกนก
- ภายในอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง เรื่องทศชาติชาดก และพุทธประวัติ ฝีมือสกุลช่างนนทบุรี เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกาว ตามแบบศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนกลาง
- มรดกล้ำค่าของชาติ “แม่พระธรณีบิดมวยผม” จิตรกรรมฝาผนังซึ่งเป็นภาพเด่นของวัดชมพูเวก ความวิจิตร และความคดเคี้ยวของเส้น ลีลาท่าทาง ความอ่อนช้อย ไหวพริ้ว ถือได้ว่าเป็นฝีมือช่างชั้นครูจริงๆ …งดงามมาก
- มัสยาเริงชล รูปปลาที่มีลักษณะพิเศษ (ปลาในเทพนิยาย) แวกว่ายในลีลาอ่อนพริ้วตามธรรมชาติ สวยงาม น่าชม
- กุฏิโผล่ออกมาจากภูเขา เป็นรูปแบบที่ศิลปินรุ่นหลัง ให้ความสนใจ และนำความคิดนี้มาเป็นต้นแบบในงานจิตรกรรมต่างๆ ภาพเขียนของวัดชมภูเวกจึงกลายเป็นครูให้กับจิตรกรในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นๆ
วิหาร …รูปแบบตึกฝรั่ง
- ประตูวิหาร ลวดลายด้านบน ได้รับอิทธิพลของฝรั่ง ไม่มีลายกนก แต่เป็นดอกไม้ ตัววิหารไม่มีเสา ผนังจะทำหน้าที่เป็นเสา โดยใช้คานพาดด้านบน …สันนิฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
- จิตรกรรมในวิหาร ฝาผนังทั้ง 4 ด้าน เขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้า และภาพพุทธประวัติ ส่วนใหญ่ชำรุดเสียหายไปมาก ถูกซ่อมมาหลายรุ่น หลายสมัย (เห็นได้จากการใช้สี)
- ลักษณะพิเศษบนเพดานของวิหารมีไม้ตีกรอบทุกห้อง ลักษณะเป็นคิ้ว (ภาพเขียนที่มีไม้เป็นกรอบ)
วิหารหลังนี้เดิมทีเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท ภายในบุษบก ต่อมามีผู้ศัทธาสร้างมณฑปให้ใหม่ จึงย้ายรอยพระพุทธบาทไปไว้ในมณฑปหลังใหม่ที่อยู่บริเวณด้านหลังวิหาร
รอยพระพุทธบาทศิลา ภายในบุษบก โบราณวัตถุสำคัญทางศาสนา ทำด้วยหินชนวน สร้างขึ้นสมัยสุโขทัย เล่าว่าสมัยนั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าพระพุทธบาทสระบุรี รอยพระพุทธบาทจารึกภาษาขอมโบราณ แสดงอริยสัจ 4 ในตำแหน่งต่างๆ เป็นจารึกหลักที่ 85 ที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้
อุโบสถหลังใหม่
สร้างเมื่อ พ.ศ.2520 ภายในประดิษฐานพระพุทธชนะมาร(องค์เดิม) ปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ฝาผนังเขียนภาพพุทธประวัติ ใต้ถุนอุโบสถเป็นพิพิธภัณฑ์พระเกจิอาจารย์ สามารถลอดเพื่อเป็นศิริมงคลได้
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน สถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุ และสิ่งของเครื่องใช้ทั้งของทางวัดชมภูเวกและสิ่งของที่มีผู้บริจาค เก็บรวมรวมไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ แก่คนรุ่นใหม่ แม้แต่อิฐก้อนเดียวก็เล่าเรื่องได้มากมาย มีค่า และมีความหมาย
- คัมภีร์โบราณมากมายอยู่ในสภาพดี (ไม่ชำรุด) ผูกไว้ด้วยผ้า เก็บรักษาในตู้กระจกมิดชิด
- โบราณวัตถุอื่นๆ …(บางส่วน)
ปิดท้ายขอแนะนำ ประเพณีสำคัญของชาวมอญ “ตักบาตรน้ำผึ้ง” ซึ่งจะจัดช่วงเดือนกันยายน (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี) …ไปทำบุญกันค่ะ
มื้อกลางวัน @ ร้านอาหารสวนทิพย์
สวนทิพย์ ร้านอาหารที่ยังคงเอกลักษณ์การทำอาหารไทยต้นตำรับ ดั้งเดิม ด้วยรสชาติ และการจัดสำรับ ในบรรยากาศบ้านเรือนไทย ท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เสมือนได้หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองกรุง ไปลิ้มรสชาติอาหารไทยโบราณแสนประณีตและการบริการอย่างอบอุ่น
ได้เวลาชิมสำรับ(จาน)เด็ดกันแล้วค่ะ…
- ก่อนจัดหนักต้องลองท้องด้วยออเดิร์ฟ …กระทงทองลาบไก่ (คอเบียร์ชอบ) ป๋อเปี๊ยะทอด (ถูกใจสาวๆ มีวุ้นผสมผักนานาชนิด) ข้าวตังกุ้ง (กุ้งชิ้นโต อร่อยแบบชาววัง)
- สำรับนี้การันตีด้วย รางวัลมิชลินสตาร์ …ยำสวนทิพย์ (ยำ 3 อย่าง) …ยำเห็ดฟาง ยำถั่วงอก และยำมะระ …ยำทั้งสามนี้มีรสชาติแตกต่างกัน มีส่วนผสมของเนื้อไก่บดคลุกเคล้า กลมกลืน เพิ่มรสชาติ ยำมะระความจัดจ้านกว่ายำอื่น ขมเล็กน้อย …อร่อยได้ใน 3 แบบ !!!
เมนูหลักวันนี้มีอะไร…มาชิมกัน
- กุ้งสามรส เปรี้ยวนิด หวานหน่อย ไม่เผ็ดมาก กุ้งตัวโต เนื้อแน่น อร่อมกำลังดี
- คะน้าปลาเค็ม แต่ไม่ได้เค็มเหมือนชื่อ ชิ้นปลาเล็กๆ คู่กับคะน้ากรุบ กรอบ
- ต้มยำกุ้ง กระทิเข้มข้น (นัว) ตำรับชาววัง
- แกงขี้เหล็ก เสิร์ฟคู่ปลาแห้งตัวเล็กๆ กระทิและเนื้อปลาจัดเต็ม อร่อยแบบไทยๆ
- แกงบอน เสิร์ฟคู่ไข่เค็ม …รสชาติออกหวาน(ไม่มาก) ตัดด้วยไข่เค็ม ช่วยลดความหวานของน้ำแกงได้ลงตัว …แปลก แต่อร่อย
- ทอดมันปลา ทอดมันกุ้ง อัดแน่นไปด้วยเนื้อปลา กุ้ง อร่อยคนละแบบ เพิ่มรสชาติด้วยอาจาด เข้ากันได้ดี
- น้ำพริกลงเรือ รสชาติจะเค็มๆ หวานๆ เผ็ดน้อย มีผักหลากชนิดเป็นเครื่องเคียง
- น้ำพริกหนุ่ม สไตล์ไทย ไม่คล้ายน้ำหนุ่มที่เคยกินกับแคปหมู น้ำพริกที่นี่ใช้ไก่บดเป็นส่วนผสม อร่อยไปอีกแบบ
- เมนูนี้อร่อยเป็นพิเศษ… น้ำพริกนครบาล เป็นน้ำพริกมะอึกสูตรของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช มีความเปรี้ยวของมะดัน เผ็ดกำลังดี ส่วนผสมของกุ้ง และปลา เพิ่มรสชาติ เสิร์ฟพร้อมปลาช่อนทอด(แดดเดียว) ….อร่อยถูกปาก
- เครื่องดื่ม และของหวาน มีหลากหลาย สั่งได้ตามชอบ น้ำมะพร้าว น้ำแตงโมปั่น น้ำมะตูม มะยงชิด ไอศกรีม ลูกตาลลอยแก้ว ทับทิมกรอบ …สั่งคนละแบบ คนละสไตล์
ความอร่อยท่ามกลางธรรมชาติ ต้นไม้ และสายน้ำ เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศที่หาได้ใกล้กรุงเทพฯ และที่อยากบอกต่อ…ทุกเสาร์-อาทิตย์ ทางร้านมีเมนูข้าวแช่ชาววังให้ลิ้มลอง ถึงเดือนเมษานี้เท่านั้น…แวะไปชิมกันค่ะ
ล่องเรือ แวะ เกาะเกร็ด ที่วัดปรมัยยิกาวาส
วัดปรมัยยิกาวาส เดิมชื่อวัดปากอ่าว เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร วัดโบราณ ที่สันนิฐานว่าน่าจะสร้างหลังจากพระเจ้าท้ายสระโปรดให้ขุดคลอง เมื่อ พ.ศ. 2264 ชาวเรือเรียก วัดปากอ่าว จนปี พ.ศ. 2307 พม่าบุกยึดเมืองนนทบุรี กลายเป็นวัดร้างเมื่อปี พ.ศ. 2317 ชาวมอญที่อพยพมาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ คนมอญเรียกว่า “เพียะมุเกี๊ยะเติ้ง”
ความเป็นมาของ เกาะเกร็ด
เกาะที่เกิดจากการขุนคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อปี พ.ศ. 2264 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระโปรดเกล้าฯ ให้ขุดคลองลัดเกร็ดขึ้นตัดความโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ไหลวกอ้อมไปทางบางบัวทอง ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางการไหล ชายฝั่งทั้งสองข้างของคลองลัดเกร็ดถูกกัดเซาะให้ห่างออกจากกันมากขึ้น พื้นที่ตรงกลางที่มีน้ำล้อมรอบจึงกลายเป็นเกาะ เรียกว่า “เกาะเกร็ด”
บริเวณริมน้ำเจ้าพระยา มีพระเจดีย์มุเตา (เจดีย์เอียง) อายุราว 300 ปี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เด่นของเกาะเกร็ด สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในบรรจุพระธาตุ มีความสูง 9.34 เมตร กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478
บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ มีต้นสามกษัตริย์ คือ ต้นโพธิ์ ต้นไทร และต้นหว้าขึ้นอยู่รวมกัน ร้อยรัดพันเกียวอายุกว่า 100 ปี ด้วยความแปลก และโอกาสยากที่ต้นไม้ทั้งสามจะมารวมกันแบบนี้ จึงมีผู้ศรัทธานำผ้าสามสีมาผูกที่โคนต้น และเขียนชื่อ นามสกุล คนในครอบครัว ผูกไว้เพื่อเป็นสิริมงคล …ถ่ายระยะไกล (มีเต้นท์บัง)
พระอุโบสถ ตกแต่งด้วยวัสดุนำเข้าจากอิตาลี ศิลปะยุโรปแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 ภายในพระอุโบสถ มีพระประธาน ปางมารวิชัย งดงาม ดูมีชีวิตชีวา ภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยประยุกต์ บานประตูหน้าต่าง ประดับลายปูนปั้นเขียนด้วยสี ลงรักปิดทอง กำแพงแก้วรอบพระอุโบสถมีลวดลายที่สวยงาม (ช่วงที่เราไป อยู่ระหว่างการบูรณะ)
ด้านหลังพระอุโบสถมีพระเจดีย์รูปทรงแบบมอญ “พระมหารามัญเจดีย์” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อปี พ.ศ. 2427 …
ทุกวันพระ 15 ค่ำจะมีการสวดอติปิโส ส่วนสงกรานต์คือช่วงไฮไลท์ที่จัดมาทุกปี สรงน้ำ “พระมาหารามัญเจดีย์”
ถัดไป มี พระวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่(เป็นที่สามในอำเภอปากเกร็ด) มีลักษณะพิเศษกว่าที่อื่น และมีพระไตรปิฎกฉบับภาษามอญฉบับแรกของประเทศไทย
ด้านหน้าพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่งพระปฏิมากรซานซิวซูนทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทางด้านใต้(ด้านหลัง)พระวิหารมี “พระนนทมุนินท์” พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี
ปั่นจักรยานชมธรรมชาติ…ไปร้านโรงสี สตูดิโอ
จากวัดปรมัยยิกาวาส มีเส้นทางปั่นจักรยาน ซึ่งวันนี้เราจะไปเช็คอินกันที่ ร้านโรงสี สตูดิโอ สถานที่เช็คอินแห่งใหม่บนเกาะเกร็ด ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ปั่นชิลๆ ผ่านบ้านเรือน และธรรมชาติตลอดสองข้างทาง บรรยากาศแสนพิเศษในวันธรรมดา แต่ถ้าเป็นวันเสาร์ และอาทิตย์ อาจไม่เหมาะกับการปั่นจักรยาน(คิดว่าอย่างนั้น) เนื่องจากความคึกคักของพ่อค้าแม่ขายที่นำสินค้าหลากหลายมาให้นักท่องเที่ยวได้ชิมช้อปอย่างจุใจ
จุดเช็คอินใหม่… ร้านโรงสี สตูดิโอ
ร้านโรงสี สตูดิโอ (RONGSI STUDIO) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีที่นั่งให้เลือกหลากสไตล์ จะถ่ายมุมไหน ภาพสวย รูปแบบอาร์ตก็ถ่ายได้ โรงสีเก่าแก่แห่งนี้อายุกว่าร้อยปี ถูกรีโนเวทใหม่ให้ดูคลาสสิค เป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร และโฮมสเตย์ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเก่าไว้อวดใครๆ ที่ไปเยือน
เมนูอาหาร และเครื่องดื่มหลากหลาย มีให้เลือกตามอัทธยาศัย …เครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจ
พื้นที่ภายในกว้างขวาง มีที่นั่งมากมาย ในบรรยากาศและกลิ่นอายโรงสีเก่า ที่ยังคงสภาพดี มีความเก่าให้ตื่นตา ตื่นใจ…ถ่ายรูปดีกว่า
โฮมสเตย์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สนนราคาประมาณ 2,500 – 3,500 บาท มีทั้งหมด 10 ห้อง 2 ชั้น …ดูหิ้งห้อยยามราตรี …พักสักคืน ?
วันนี้ เป็นอีกหนึ่งวัน เที่ยวเมืองนนท์ ที่หลายคนไม่รู้จัก บอกได้เลยว่า คุ้มค่า “ชม ชิม ช้อป แชะ” ครบทุกรส ถ้าใครมีเวลา ในวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ ลองแวะไปเที่ยวจังหวัดนนทบุรี สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ นิดเดียว ..ชวนเที่ยวค่ะ
ขอขอบคุณ…การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานกรุงเทพฯ
วัดชมภูเวก
ที่อยู่ : 121 ซอยนนทบุรี 33 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี
โทรศัพท์ : 080-553-1007
ร้านอาหาร สวนทิพย์
ที่อยู่ : 17/9 ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
เวลาเปิดปิด : 11.00 – 23.00 น. ทุกวัน
โทร. 0-2583-3748 และ 0-2583-4540
www.suanthip.com และ www.facebook.com/SuanThip/
ร้านโรงสี สตูดิโอ
ที่อยู่: 3010 ถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ถนนวัดสว่างอารมณ์ ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
โทรศัพท์: 02 082 8865
เวลาเปิดปิด : 10.30 – 23.00 น. ทุกวัน
วัดปรมัยยิกาวาส
ที่อยู่ : 51 หมู่ที่ 7 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
การเดินทางไปเกาะเกร็ด…นั่งเรือ
นั่งเรือจากวัดสนามเหนือหรือวัดกลาง ไปที่วัดปรมัยยิกาวาส
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเกร็ด โทร.0-2583-9544