มีครรภ์ก็นวดได้ การนวดช่วยลดความปวดเมื่อย ลดอาการบวม

คิดจะพัก-สตรีตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะมีอาการปวดหลัง ปวดขา ปวดน่อง หรือปวดเมื่อยตามตัวเนื่องจากจากกายวิภาคของร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไประหว่างที่มีตั้งครรภ์มดลูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ท้องของสตรีตั้งครรภ์โตขึ้นและเพื่อให้ทรงตัวอยู่ได้สตรีตั้งครรภ์จึงต้องยืนแอ่นหลังเอาไว้ จึงทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณหลังนอกจากนี้ น้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นก็ทำให้ขา ข้อเข่า และข้อเท้าต้องรับน้ำหนักมากขึ้น จึงมักมีอาการปวดขาปวดน่อง โดยเฉพาะสตรีตั้งครรภ์ที่ต้องยืนนานๆในแต่ละวัน

สตรีตั้งครรภ์บางคนอาจมีอาการปวดเมื่อยจากโรคของข้อและกล้ามเนื้อที่เป็นอยู่เดิมเมื่อตั้งครรภ์มักจะมีอาการรุนแรงขึ้นได้ แต่อาจกังวลกับการรับประทานยาที่เคยใช้ประจำจึงมักตั้งคำถามขึ้นกับสูติแพทย์อยู่เสมอว่า ในสตรีตั้งครรภ์สามารถที่จะไปนวดตัว นวดเท้า นวดกดจุด
หรือเข้าสปาได้หรือไม่ มีผลดี/ผลเสียอย่างไรมีการศึกษาไม่มากนักเกื่ยวกับผลของการนวดในสตรีตั้งครรภ์และส่วนใหญ่ทำการศึกษาในกลุ่มที่มีอาการซึมเศร้า และไม่พบว่ามีประโยชน์ด้านอื่นๆ ชัดเจนกับการตั้งครรภ์

แต่มีการศึกษาอยู่จำนวนหนึ่งที่พบว่าการนวดช่วยลดความปวดเมื่อย ลดอาการบวม ตะคริว ปวดศีรษะคลายความเครียด ทำให้หลับสบายขึ้น และอารมณ์ดีขึ้นแต่การนวดตัวในสตรีตั้งครรภ์ควรได้รับการปรับเปลี่ยนจากการนวดทั่วไปเป็นแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับสตรีตั้
งครรภ์ เริ่มตั้งแต่เตียง/หมอนที่ใช้ การลงน้ำหนัก รวมไปถึงเทคนิคต่างๆในการนวดเป็นต้นว่าคนนวดต้องมีความชำนาญและได้รับการฝึกฝนเฉพาะควรให้สตรีตั้งครรภ์นอนอยู่ในท่านอนตะแคงข้าง หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณท้อง หรือต้องนวดอย่างเบามือที่สุด
สตรีตั้งครรภ์หลายคนอาจมีปัญหาเส้นเลือดขอดที่น่องจึงไม่แนะนำให้ใช้การนวดลงน้ำหนักมากบริเวณน่องและขา
เพราะอาจทำให้ลิ่มเลือดที่แข็งตัวหลุดออกไปอุดตันเส้นเลือดในร่างกายได้

 

โดยทั่วไปคนนวดมักจะหลีกเลี่ยงการนวดกดจุดที่บริเวณเท้า ข้อเท้า หรือข้อมือเพราะเชื่อว่าอาจไปกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกและกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานดังนั้นจึงแนะนำให้สตรีตั้งครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องมาก มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร การเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนด มีภาวะความดันโลหิตสูง หลีกเลี่ยงจากการนวดสูติแพทย์บางท่านอาจจะไม่แนะนำให้สตรีตั้งครรภ์นวดตัวเลย เพราะไม่มั่นใจในมาตรฐานของคนนวดอุปกรณ์หรือเทคนิค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรก ในกรณีที่ไม่แน่ใจควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนเสมอว่าตนเองมีข้อบ่งห้ามใดๆ สำหรับการนวดตัวหรือไม่ (ในบางประเทศต้องมีใบรับรองแพทย์จึงจะนวดได้)