คิดจะพัก-ภาพยนตร์สั้นเรื่อง “รอยยิ้ม” ผลงานทีม 70 MM นักศึกษาสาขาวิชาการภาพยนตร์ดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้รับรางวัลชมเชย และทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาท ในโครงการประกวดคลิปวิดีโอ หัวข้อ “25 ปี กับ บิ๊กซี”
นายธนวินทร์ ไชยแสง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการภาพยนตร์ดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ตัวแทนทีม 70 MM กล่าวว่า หลังจากทราบข่าวว่าบิ๊กซีจัดประกวดคลิปวิดีโอ ในหัวข้อ “25 ปี กับ บิ๊กซี” ซึ่งเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความรู้สึกทุกเรื่องราวที่มีต่อบิ๊กซี โดยไม่จำกัดความยาวคลิป ไม่จำกัดรูปแบบการผลิต ไม่ว่าจะเป็นคลิป หนังสั้น อะนิเมชั่น กราฟิก มิวสิควิดีโอ หรือเซลฟี ตนเองและเพื่อนในทีมได้รวมกลุ่มกัน 5 คน เพื่อจะทำหนังสั้นประกวด ด้วยความที่พวกเราในทีมและเรียนทางด้านภาพยนตร์และผ่านเวทีประกวดหนังสั้นมาหลายเวที มีทั้งได้รางวัลบ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็ถือเป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาฝีมือในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยในการประกวดหนังสั้นเวทีนี้เราคิดพล็อตเรื่องจากเรื่องใกล้ตัว เพราะพวกเราในทีมก็โตมากับบิ๊กซี รู้ถึงความเป็นมาและโครงการต่างๆ ของบิ๊กซี และในโอกาสฉลอง 25 ปี บิ๊กซีที่อยู่เคียงข้าง สังคมไทย จัดโครงการประกวดคลิปวิดีโอนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำหนังสั้นเรื่องรอยยิ้ม ซึ่งมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดหลายทีม และคัดเหลือ 25 ทีมจากรอบคะแนนโหวต และคัดเหลือ 10 ทีมสุดท้าย โดยทีมของพวกเราทีม 70 MM ได้รับรางวัลชมเชยและทุนการศึกษามูลค่า 50,000 บาท
นางสาวมารียา ศรีอุทิศ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการภาพยนตร์ดิจิทัล วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ตัวแทนทีม 70 MM กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสั้นเรื่อง “รอยยิ้ม” ว่า หนังสั้นเรื่องนี้ให้ความรู้สึกดีๆ ของตัวพระเอกนางเอกของเรื่องคือ บอสและเจนที่มีบิ๊กซีเป็นสื่อกลางในการแบ่งบันรอยยิ้ม ความสุข ความอบอุ่น ให้กับสังคมไทย ผ่านโครงการบริจาคของให้โรงเรียนซึ่งเป็นโครงการของบิ๊กซีที่ได้ดำเนินการมายาวนาน โดยทางทีมได้นำเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการเพื่อสังคมมาสื่อสารเพิ่มเติมเพื่อสร้างรอยยิ้ม ความทรงจำ ความประทับใจ ผ่านเรื่องราวของหนังสั้นเรื่องนี้ โดยเดินทางไปถ่ายทำที่บิ๊กซีจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นสาขาที่มีการจัดโครงการบริจาคสิ่งของเพื่อโรงเรียน โดยใช้เวลาในการถ่ายทำและตัดต่อก่อนส่งเข้าประกวดไม่นานนัก แต่ในภาพรวมก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่พวกเราได้พึงพอใจ พวกเราในทีมเชื่อว่าทุกเวทีการประกวด มีความท้าทาย การเดินออกมาเพื่อไปประกวดทำให้เราได้พิสูจน์และพัฒนาฝีมือ ได้นำความรู้ความสามารถจากการเรียนมาสู่ผลงานจริง เพราะโจทย์การประกวดก็เหมือนโจทย์ที่ลูกค้าอยากได้ การประกวดจึงเป็นเหมือนใบเบิกทางให้พวกเราพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นต่อไป ทุกเวทีคือประสบการณ์ ยังมีอีกหลายเวทีที่อยากไป และการเรียนการสอนที่สาขาวิชาการภาพยนตร์ที่นี่เปิดโอกาสให้เราได้ลองคิด ลองทำจริงๆ