คิดจะพัก-บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังสำหรับหนังเรื่องนี้ GREEN BOOK ที่เปิดฉายรอบสื่อมวล ณ โรงภาพยนตร์ ไอคอน ซีเนคอนิคให้เข้าไปพิสูจน์ว่า ดีสมคำร่ำลือหรือไม่ โดยล่าสุดเวทีใหญ่อย่าง National Board of Review (เนชั่นแนล บอร์ด ออฟ รีวิว) หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า สมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์แห่งอเมริกา ซึ่งถือได้ว่าเป็น 1 ใน 4 รางวัล BIG4 ของสมาคมนักวิจารณ์ยักษ์ใหญ่ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของอเมริกา ได้ประเดิมการประกาศผลรางวัลเป็นสถาบันแรกในสาขาต่างๆ ทั้งหมดออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วประเดิมชัยชนะจากเวทีนี้กับการสามารถคว้าสองรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (วิกโก้ มอร์เทนเซน) มาได้สำเร็จ
“GREEN BOOK” นำแสดงโดยสองนักแสดงฝีมือคุณภาพ วิกโก้ มอร์เทนเซน ผู้เข้าชิงสองรางวัลออสการ์จาก Eastern Promises, Captain Fantastic ร่วมด้วย มาเฮอร์ชาลา อาลี เจ้าของรางวัลออสการ์จาก Moonlight เล่าถึงเรื่องราวของ ผู้ชาย 2 คน ที่มาจากโลก 2 ใบ หนึ่งคือศิลปินนักเปียโนผิวสีระดับโลก “ดร. ดอน เชอร์ลีย์” (มาเฮอร์ชาลา อาลี) อีกหนึ่งคือคนขับรถชาวอิตาเลียนอดีตการ์ดเฝ้าผับ “โทนี่ ลิป” (วิกโก้ มอร์เทนเซน) ที่ได้มุ่งหน้าสู่ตอนใต้ของอเมริกาในยุค 60’s อันเป็นยุคที่ประเด็นการเหยียดสีผิวยังคงรุนแรงอยู่ เส้นทางการเดินทางครั้งนี้จะสร้างหนึ่งมิตรภาพ ข้ามเส้นแบ่งพรมแดนของสีผิว-ชนชั้น และจะส่งต่อเสียงหัวเราะ คราบน้ำตา สร้างมุมมองใหม่ในการหันมามองเพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
ขอชมผู้กำกับ ที่ถ่ายถอดออกมาแบบไม่ดราม่าจนน่าเบื่อ น้ำตาท่วม “GREEN BOOK” มีความเป็นดราม่าในความตลก แฝงปรัชญาการ ใช้ชีวิต “ดร. ดอน เชอร์ลีย์” สอน“โทนี่ ลิป” บางอย่างต้องอดกลั้นเผื่อไม่ให้งานให้เสีย หรือ การข่มสติเพื่อรับมือกับคนที่ไม่เข้าใจเราและอีกอย่างที่ขอชม นั่นคือภาพสวย มุมกล้องละเอียดมาก เรียกได้ว่าเก็บทุกเม็ดจริงๆ ภาพสวยยังกับหนังรักโรแมนติก อะไรประมาณนั้น
เรียกได้ว่าเป็นหนังดี ปิดท้ายปี2018 อีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าใครอยากดูหนังดีสักเรื่อง GREEN BOOK ก็น่าจะเป็นหนังที่ได้แง่คิดการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข หรือ ดูสนุกเอาฮา ปรัชญาแถมท้าย ได้ดราม่าบ้าง ไปเลยครับ ถ้าไม่ดูจะเสียดายเอานะ