คิดจะพัก-เชื่อว่าในแวดวงสถาปนิกเมืองไทยหลายคนต้องเตะหูเตะตาสถาปนิกหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นที่ชื่อแห่งบริษัท จูน เซคิโน อาร์คิเทคต์ แอนด์ ดีไซน์ จำกัด เป็นแน่แท้บริษัทแห่งนี้เป็นที่รู้จักในการดำเนินกิจการด้านการออกแบบ ให้คำปรึกษาและพัฒนางานสถาปัตยกรรมที่ครบวงจรและที่สำคัญมีผลงานการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมที่ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจไม่น้อยเลยทีเดียว มาทำความรู้จักกันกับคนนี้กัน
สำหรับ จูน เซคิโนเป็นคนหนึ่งที่ต้องบอกว่ามีลุคความเป็นสถาปนิกรุ่นใหม่มากด้วยคาแรกเตอร์ที่คล่องแคล่ว คล่องตัว คิดเร็วทำเร็ว
และแอคทีฟไฟแรงอยู่ตลอดเวลาทำให้มั่นใจได้เลยว่างานดีไซน์ของคนนี้ต้องมีความโดดเด่นและสร้างสรรค์อย่างแน่นนอน จูน เซคิโน เป็นศิษย์เก่าจบปริญญาตรีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากรั้วมหาวิทยาลัยรังสิตและเป็นสถาปนิกคนที่กำลังมีผลงานวิชาชีพที่โดดเด่นจนได้รับรางวัลระดับชาติและนานาชาติมากมาย อาทิ Architizer Award Newyork GermanDesign Award รางวัลด้านการออกแบบที่มิลาน เป็นต้น ล่าสุดได้รับรางวัลBuilding of the Year 2018 และ รางวัล Gold MedalSocial/Institutional Building จากงาน ‘ARCASIA Award 2018’ ซึ่งจัดณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นคอนเซ็ปต์แบบไม่คอนเซ็ปต์สไตล์นักบริหาร จูน เซคิโน
หลักคิดในการทำงานทั้งในฐานะสถาปนิก นักบริหารของเขาที่ต้องดูแลทีมงานกว่า 15 คน และทุกคนต่างมีคุณวุฒิ วัยวุฒิที่ต่างกันมากการรับมือและจัดการให้เหล่าดีไซน์เนอร์อาชีพไฟแรงมาทำงานร่วมกันแบบทีมเวิร์กผนึกกำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ลูกค้ายอมรับให้ได้เขามีโดยใช้หลักคิดง่ายๆแค่ “ไม่ได้มีมายเซ็ตอะไรเป็นพิเศษด้วยความที่การเกิดของออฟฟิศเริ่มจากจับพลัดจับผลูก่อร่างสร้างบริษัทตั้งแต่ปี 2010 มาจนปัจจุบัน เรามีการปรับเปลี่ยนกันทุกวันด้วยความที่คิดเสมอมาว่าเราไม่ได้โตมาด้วยจากการเป็นเจ้านายใครเริ่มต้นชีวิตมาจากการเป็นลูกน้อง และทำงานในระบบออฟฟิศกว่า 10 ปีทำให้เราได้ผ่านอะไรมามากมายทำให้เรารู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรเราต้องให้ความสำคัญเพราะเราทำงานกับคนไม่ใช่เครื่องจักรและคนที่เรากำลังทำงานด้วยนั้นมีสไตล์มีคาแรกเตอร์ที่ต่างกันโดยเฉพาะมีความเป็นอาร์สติสนั้น
เราต้องพยายามหาจุดร่วมที่เราจะไปด้วยกันการทำงานจะมีอยู่สองคำง่ายๆ คือ “ถูกใจกับถูกต้อง”จินตนาการย้อนไปสมัยเรียนสองคำนี้หลายคนคงเลือกถูกใจมาก่อนถูกต้อง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ในการบริหารงานเราควรที่จะเลือกถูกต้องมาก่อนถูกใจเมื่อทำงานถูกต้องแล้วมีความรู้สึกไม่ถูกใจ ไม่เป็นไรปรับปรุงแก้ไขใหม่
แต่ถ้าทำงานถูกต้องแล้วเกิดความถูกใจตามมาเรียกว่า Successซึ่งเป็นเหตุเป็นผลบนหลักความเป็นจริง และเราตั้งกันเป็นกติกาง่ายๆ
ในการทำงานกับทีมงานเราอย่าลืมว่าความสำเร็จที่เราได้มาไม่ได้มาเพราะตัวเราคนเดียว จูนเซคิโน ไม่ได้เดินมาเดียวฉะนั้นถ้าจะสำเร็จหมายถึงความสำเร็จของทุกคนเท่านี้เราก็จะสามารถทำงานไปด้วยกันได้”
ถ้าความ Failed มีทุกวันจะทำยังไง?
เมื่อชีวิตไม่ได้ราบเรียบหรือแฮปปี้ตลอดดังนั้นให้รู้ไว้เสมอว่าความล้มเหลวมีทุกวันบางวันเรายังต้องรับประทานอาหารที่อร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้างมีของที่เราชอบบ้างไม่ชอบบ้าง แต่เราต้องฝึกคิดว่าของสิ่งนั้นหรืออะไรที่เราไม่ชอบอาจจะมีประโยชน์กับเราก็ได้ดังนั้นทุกเช้าที่เราตื่นมาเราจะมีการบ้านกับตัวเองเสมอ
เราจะเปลี่ยนตัวเองไปทุกวัน ไม่ใช่อารมณ์แปรปรวนนะแต่เราเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานอะไรที่ยังทำไม่ดีพอวันนี้เราจะทำใหม่ ค่อยๆปรับค่อยๆเปลี่ยนเมื่อความรู้สึก Failed มาเยือน ให้คิดก่อนว่ามาจากอะไรบ่อยครั้งงานออกแบบที่เราทำเกิดจากความคาดหวัง หวังว่าจะเป็นแบบนี้หวังว่าจะเป็นแบบนี้แต่จริงๆแล้วเราต้องเข้าใจงานก่อนว่างานออกแบบสถาปัตยกรรมของเราไม่ได้มีคำตอบเป็น ก ข ค ง แต่มันควรเป็นคำตอบแบบบรรยายซึ่งจะทำให้เราขจัดความคาดหวังได้เพราะเรามีคำบรรยายปลายเปิดให้กับสิ่งนั้นความคาดหวังและจุดมุ่งหมาย
จะมีหลายทางให้กับเราทันทีเป็นแนวคิดที่ใช้กับในทุกๆเรื่องในชีวิตทำให้ชีวิตไม่เคยรู้สึกว่าผิดหวังหรือล้มเหลวถาวรความสำเร็จแบ่งปันได้ด้วย ‘โอกาสเพราะว่าเราเคยเป็นเด็กมาก่อนเราเติบโตมาได้แบบสังคมและวัฒนธรรมในแบบของเราเด็กรุ่นใหม่ก็เช่นกันการที่เขามีทัศนคติหรือความคิดแบบนี้ไม่ใช่เป็นเพราะเป็นมาแต่กำเนิดแต่บริบทสังคมต่างหากที่หล่อหลอมให้เขาเป็นแบบนั้นแล้วเราจะทำอย่างไรที่จะให้คนวัยอย่างเรา ทำงานกับเขาได้ พี่จูนบอกว่าเราต้องนึกถึงเขาว่าเด็กเหล่านั้นไม่ได้อายุเท่าเราเขาอายุเพียงแค่ 20 30เราต่างหากที่เคยผ่านช่วงอายุนั้นมา เราต้องเป็นคนเข้าใจเข้าผู้ใหญ่ต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายปรับเข้าหาเด็กใช้สูตรความเข้าใจ 50:50จำไว้เสมอว่า เราเองก็เคยอยู่ในจุดที่วิ่งหาโอกาส และได้รับโอกาสในสถานการณ์เดียวกันถ้าเราให้โอกาสเขาเหมือนกับที่เราเคยได้รับโอกาสแค่นี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตเขาได้เลยทั้งชีวิต
ฉะนั้นพึงให้โอกาสคนที่อยู่รอบตัวเราเสมอยิ่งให้ก็เหมือนยิ่งได้หากเราให้โอกาสดีกับเขาเขาก็ทำงานให้เราดีออฟฟิศเราก็ดี ก็ส่งผลดีด้วยกันทั้งสองฝ่ายและสิ่งที่ตามมาอย่างเห็นได้ชัดคือการการได้รับรางวัลจากงานประกวดแบบต่างๆ จึงเป็นโบนัสเป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกรุ่นทุกคนเป็นการแบ่งปันโอกาสและความสุขร่วมกัน
***********************************