ศิริราชเชิญชวนร่วมกิจกรรมวันเบาหวานโลก (ฟรี)

คิดจะพัก-คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล โดยศูนย์เบาหวานศิริราช จัดกิจกรรม “วันเบาหวานโลก ประจำปี 2561” ภายใต้หัวข้อ “เบาหวานกับครอบครัว (Family and diabetes)” ระหว่างวันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2561 เวลา  08.00 – 15.30 น. ณ โถงอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์ รพ.ศิริราช

ภายในงาน มีบริการตรวจสุขภาพ อาทิ เจาะเลือด (งดน้ำอาหารอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้) จำนวน 200 คนต่อวัน ชั่งน้ำหนัก วัดรอบเอว วัดความดันโลหิต วิเคราะห์มวลร่างกาย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย จาก   ศิริราชฟิตเนสเซ็นเตอร์ พร้อมให้คำปรึกษาโดย แพทย์ พยาบาล และนักโภชนาการ  กิจกรรมโซนให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโรคแทรกซ้อน ได้แก่ การตรวจจอประสาทตา การจำลองตัวอย่างการฟอกไต อุปกรณ์รองเท้าสำหรับผู้เป็นเบาหวานและขาเทียม อีกทั้งบูธจากหน่วยงานภายนอก อาทิ เครือข่ายไร้พุง และเครือข่ายลดบริโภคเค็ม พร้อมทั้งกิจกรรมบนเวที ●15 พ.ย. เวลา 11.30-12.30 น.  สาธิตการบริหารร่างกาย   ●16 พ.ย. เวลา 12.30-13.30 น. สาธิตการทำอาหารสุขภาพ

โอกาสนี้  ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์  วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจะเป็นประธานเปิดงานวันเบาหวานโลก ประจำปี 2561 และเปิดศูนย์ความเป็นเลิศเบาหวานศิริราช (ซึ่งสหพันธ์เบาหวานนานาชาติมอบประกาศนียบัตรรับรองให้ศูนย์ฯ  แห่งนี้เป็นศูนย์การเรียนรู้ centre of education )  ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14.00 น. จากนั้นจะเป็นการเสวนาเกี่ยวกับศูนย์ฯ ร่วมกับ รศ.นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช  รศ.นพ.เชิดชัย นพมณีจำรัสเลิศ รศ.นพ.ณัฐเชษฐ์ เปล่งวิทยา และ รศ.พญ.สุภาวดี ลิขิตมาศกุล  เมื่อจบการเสวนา เปิดให้สื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติเข้าเยี่ยมชมศูนย์ฯ  ประกอบด้วย 3 โซน ได้แก่  1. จุดลงทะเบียนคัดกรองภาวะแทรกซ้อนจอประสาทตาและเท้า สำหรับผู้เป็นเบาหวาน 2. บริการรับคำปรึกษาเบาหวาน และสื่อประกอบการสอน โดยผู้ให้ความรู้ด้านเบาหวานแบบองค์รวม  3. ห้องการศึกษาเรียนรู้เบาหวานด้วยตนเอง ได้แก่ อาหาร ยาเบาหวาน การออกกำลังกาย รองเท้าและอุปกรณ์การดูแลเท้า  จึงขอเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมงานฟรี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เบาหวานศิริราช  โทร. 0 2419 9568-9  ในวันเวลาราชการ

โรคเบาหวานเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD)  ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจ  เพราะครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการรักษาเบาหวาน  ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่เป็นเบาหวาน ญาติ และผู้ดูแล ตลอดจนผู้ที่มีความเสี่ยง เล็งเห็นปัญหาและความสำคัญในการดูแล  และเพื่อชะลอการเกิดภาวะโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ