คิดจะพัก-วันศุกร์เลิกงานก็ดึกแล้วแต่อยากไปดูหมอกรับละอองฝนเบาๆได้ความหนาวบ้างที่ไหนดี ภูทับเบิกไง ไม่ไกลจากกรุงเทพแล้วจะรออะไรล่ะ จัดเลยใช้เวลานิดหน่อยในวันหยุด นับจริงๆที่สองคืนสองวัน กำลังดีนะ
เริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพ ห้าทุ่มกว่าเกือบเที่ยงคืน ขับไปเรื่อยๆ ไปเส้นเพชรบูรณ์ ผ่านตัวเมืองมุ่งหน้าไปทาง อ.หล่มสัก ซึ่งมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ เส้นทางก็ขับรถง่ายไม่หลงถึงภูทับเบิกก็ เช้าพอดี
ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม มากอันดับต้นๆของประเทศไทย ยิ่งช่วงปลายฝนต้นหนาว ต้องเช็คที่พัก กับเส้นทางล่วงหน้ากันเลยทีเดียวไม่งั้นจะเต็ม มาเสียเที่ยว เสียเวลาโดยช่ายเหตุ
เราตั้งใจว่าจะมาดูหมอกที่ลอยผ่านหน้าอย่างใกล้ชิดเลย งั้นรอดูหมอกเช้าแรกก่อนเลย ที่มาแบบนี้เพราะกันพลาด เพราะหมอกนั้นมีวันหยุดนะ บางครั้งไปอาจจะไม่เจอก็ได้เพราะธรรมชาติเราไม่สามารถจะบังคับได้ตามใจเราต้องการ เราถึงต้องออกไปหามัน
ที่พักของเราเป็นเต็นท์ที่นอนได้2คนกำลังดี ราคาก็พอรับได้แถวๆนี้ วิวนี้สวยงามมากๆตื่นเช้ามาก็ชมทะเลหมอกแบบ 360 องศา พร้อมกับจิบกาแฟร้อนร้อนสักแก้ว โครตฟินอะไรอย่างนี้
ตกบ่ายไม่ต้องอะไรมาก เข้าที่พักเช็คอินเรียบร้อย เข้าที่พัก นอนพักซักเอาแรงหน่อย เย็นๆ ตื่นมารู้สึกหิว เลยสั่งหมูกะทะชุดละ500มา กินเพลินๆกับอากาศฟินๆ อิ่มละนอนเล่นดูวิวเพลินจนหลับไป ตื่นเช้ามาลุ้นหมอกอีกรอบ นั่นแหละคือที่มาว่าทำไมต้องออกตั้งแต่ห้าทุ่มเที่ยงคืน มันต้องลุ้นซักสองรอบนะ ทะเลหมอกจ๋า พี่มาแล้ว ตะโกนดังๆไปเลย
ถ่ายรูปเล่นกับสายหมอกจนหนำใจ ทานอาหารเช้าเสร็จ สายๆเราออกเดินเล่นในตลาด เจอร้านค้าของชาวม้ง บนภูทับเบิกที่นำพืชผักที่ปลูกตามไร่นาและเก็บมาจากป่ามาวางขาย หาอะไรกลับไปกินซักนิด มันเผาก็ฝินดีนะ อากาศหนาวเข้ากันเหมาะเจาะ
ขากลับ แวะไหว้พระขอพรที่ วัดป่าภูทับเบิกซึ่งเป็น วัดที่สูงที่สุดในประเทศไทย สร้างจากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิก หนึ่งใน Unseenของภูทับเบิก ก่อนจะซื้อมะขามหวานเพชรบูณณ์เค้าว่าดี ของโอท็อปเลยนะ ซื้อกลับมาทานเล่นในวันทำงาน ฝากเพื่อนๆบ้าง
2คืน 2วัน หมดไปอย่างรวดเร็ว ไอหมอกผ่านหน้าทำให้สดชื่นกลับจากภูทับเบิกคราวนี้ เหมือนได้ชาร์ตแบตเต็ม มีแรงสู้กับการทำงานหาเงินเที่ยวอีกแล้วเจอกันนะ ในทริปหน้า