คิดจะพัก-วันนี้คิดจะพักจะพาลงใต้ ไปดูถ้ำโจรจีนคอมมิวนิสต์กัน นั่นคืออุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง ตามตำนานว่า เขาน้ำค้างเป็นยอดเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี สมัยก่อนคนที่เคยขึ้นไปบนยอดเขาจะพบว่ามีน้ำค้างเป็นเกล็ดอยู่ตามยอดหญ้า ลักษณะเป็นใยแมงมุม แม้แต่ตอนเที่ยงวันยังมีน้ำค้างประปรายอยู่บนยอดหญ้า ซึ่งเป็นสภาพที่แปลก สวยงามยามที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์จะระยิบระยับและแตกต่างไปจากที่อื่นจึงเรียกขานกันว่า “เขาน้ำค้าง”
อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง มีมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 220 ตารางกิโลเมตร หรือ 137,800 ไร่ พื้นที่อยู่ในอำเภอนาทวี และอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา มีสภาพป่าและทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจสวยงาม เช่น น้ำตกจำนวนหลายแห่ง ทั้งยังเป็นพื้นที่ ประวัติศาสตร์ฐานที่มั่นและของการสู้รบกับโจรจีนคอมมิวนิสต์ ที่เป็นหลักฐานให้ศึกษาถึงสถานที่และวัตถุทางประวัติศาสตร์ของการสู้รบอันยาวนานได้
เขาน้ำค้างเป็นสถานที่อันตรายที่ไม่มีใครกล้าเข้ามาร่วมเวลากว่า 40 ปี เริ่มตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ประวัติศาสตร์ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของโจรจีนคอมมิวนิสต์ ด้วยบริเวณที่มีพื้นที่ภูมิประเทศเป็นถิ่นทุรกันดาร เทือกเขาสลับซับซ้อน ทำให้เป็นฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโจรจีนคอมมิวนิสต์แถบนี้
ภายหลังจากการปฏิบัติการตามแผนยุทธการใต้ร่มเย็น โดยนำนโยบายการเมืองนำการทหารของรัฐบาลสมัยนั้นและได้นำนโยบายนี้เข้าปฏิบัติการสามารถเข้ายึดค่ายปฏิบัติการของโจรจีนคอมมิวนิสต์ได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2523 ทำให้โจรจีนคอมมิวนิสต์สลายตัวไปในที่สุด และได้เปิดให้คนเข้าชมจึงกลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา
โดยสถานที่เที่ยวเด่นที่คุณไม่ควรพลาดชมเลย นั่นก็คือ อุโมงค์ค่ายพักเป็นอุโมงค์โจรจีนคอมมิวนิสต์ หรือ อุโมงค์เขาน้ำค้าง เป็นฐานที่มั่นหรือฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดของ จ.ค.ม. ในแถบนี้ อาศัยแรงงานทั้งชายและหญิงช่วยกันขุดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 เป็นเวลา 2 ปี จึงสำเร็จ อุโมงค์มีความยาวประมาณ 1,500 เมตร อากาศข้างในเย็นสบาย คงเป็นเหตุนี้เองที่สามารถตั้งเป็นกำลังของโจรจีนคอมมิวนิสต์อยู่นานมาก
อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง เป็นฐานที่มั่นหรือฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดของโจรจีนคอมมิวนิสต์ในแถบนี้ มีลักษณะเป็นถ้ำหรืออุโมงค์ธรรมชาติที่ใหญ่ และมีความวิจิตรพิสดารของธรรมชาติ เป็นแหล่งสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์และเสบียงอาหารที่สำคัญ และทางทิศตะวันออกของอุโมงค์ มีน้ำตกพรุชิงที่สวยงามด้วยด้านหน้าก่อนเดินเข้าไปชมภายในอุโมงค์จะมีนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมา ข้อมูล และภาพถ่ายให้ได้ชมกัน บริเวณอุโมงค์ในอดีตเป็นหมู่บ้านคอมมิวนิสต์ หลังจากการสู้รบกับฝ่ายรัฐบาลเกือบ 40 ปี พรรคคอมมิวนิสต์ได้ประกาศยุติการสู้ เข้าร่วมเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเมื่อปี พ.ศ. 2530 อุโมงค์นี้เป็นอุโมงค์ดินเหนียวมีขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย ขุดด้วยกำลังคนใช้เวลาประมาณ 2 ปี
ในปี พ.ศ. 2530 จ.ค.ม. ได้ยุติการสู้รบ อุโมงค์เขาน้ำค้างจึงได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเปิดให้คนทั่วไปเข้าชม อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปตามถนนบ้านสะท้อน-สะเดา ประมาณ 6 กิโลเมตร มีทางแยกเข้าสู่บ้านปิยะมิตร 5 ผ่านสวนยางพาราจนไปถึงอุโมงค์ภายในแบ่งเป็น 3 ช่องทาง ลึก 3 ชั้น มีมีช่องทางเข้า-ออก 16 ช่อง มีบันไดเชื่อมระหว่างชั้น ความยาวคดเคี้ยวขึ้นลงภายในอุโมงค์ยาว 1 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์แบ่งเป็นห้อง ๆ เช่น ห้องประชุม ห้องพยาบาล ห้องวิทยุ ห้องครัว สนามซ้อมยิงปืน เป็นต้น
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
การเดินทาง
เส้นทางที่ 1 จากอำเภอเมืองจังหวัดสงขลาไปตามถนนสายสงขลา-นาทวีถึงแยกป่าชิงอำเภอจะนะ ระยะทาง 35 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาผ่านแยกเข้าอำเภอจะนะถึงอำเภอนาทวี ระยะทาง 24 กิโลเมตร จากอำเภอนาทวี ผ่านสามแยกบ้านสะท้อน บ้านนาปรัง ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง ระยะทาง 27 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 86 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 จากอำเภอหาดใหญ่ไปทางแยกคลองหวะตามถนนสายหาดใหญ่-สะเดา ถึงอำเภอสะเดา ระยะทาง 57 กิโลเมตร จากอำเภอสะเดา ผ่านบ้านม่วง บ้านเกาะหมี ตำบลสำนักแต้ว ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง ระยะทาง 27 กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้น 84 กิโลเมตร
ขอบคุณข้อมูลบางสว่นจาก วิกิพีเดีย และกรมอุทยานแห่งชาติ