หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพาไปชม ตั้งอยู่ในตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ วันเดียวก็เที่ยวได้ หลายคนยังไม่รู้จัก(เราคือหนึ่งในนั้น) ว่าสถานที่แห่งนี้มีประดิษฐกรรมล้ำค่าซ่อนตัวอยู่ภายในเมืองมายา นิทรรศการกลางแจ้ง พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ สถานที่ซึ่งรวบรวมประวัติความเป็นมา วัตถุสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ไว้ให้ได้เรียนรู้ เรียกได้ว่ามีครบทั้ง ศาสตร์ ศิลป์ ศิลปินในอดีต และประติมากรรมที่หาดูได้ยาก
จุดแรกที่ต้องแวะ “มายาพาณิชย์”
ก่อนที่จะเข้าไปชมภายในหอภาพยนตร์ เราจะต้องเข้าไปติดต่อเจ้าหน้าประจำหอภาพยนตร์เสียก่อน เพื่อรับทราบรายละเอียดต่างๆ (ทำความเข้าใจ) ที่อยู่ภายในอาคารแรกซ้ายมือ ซึ่งเป็นร้านของสินค้าที่ระลึก ชื่อร้าน “มายาพาณิชย์”
ลานกลางแจ้งคือ “เมืองมายา”
“เมืองมายา” เป็นนิทรรศการจำลองฉากสถานที่ และบ้านเมือง ทั้งของประเทศไทย และต่างประเทศ สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ภายนอกอาคารโรงถ่าย ที่เรียกเมืองมายาก็เพราะการถ่ายทำภาพยนตร์นั้นมีการเสกสรรปั้นแต่ง การสมมุติ และการลวงหลอกตา โดยพูดรวมๆ ได้ว่าเป็น “มายา” ดังเช่นฉากบ้านเมืองเหล่านี้ก็ทำหลอกขึ้นเพื่อการถ่ายทำภาพยนตร์ และเมื่อดูภาพบนจอภาพยนตร์ก็เชื่อว่าเป็นจริง
นิทรรศการจำลองประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โลก
โรงถ่ายแบล็คมารีอา
- นิทรรศการกลางแจ้งจำลองโรงถ่ายหนังแห่งแรกของโลก ของโทมัส เอดิสัน ที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตภาพยนตร์ป้อนฉายในร้านถ้ำมอง คิเนโตสโคป ซึ่งหอภาพยนตร์ได้จำลองมาจากเหตุการณ์จริง
- มีกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถร่วมสนุกได้ในสไตล์ตัวเอง ด้วยการสัมผัสประสบการณ์การถ่ายหนังโบราณ โดยร่วมเป็นผู้แสดงในภาพยนตร์โบราณของหอภาพยนตร์เรื่อง “คนกินกล้วย” มีค่ากิจกรรมเพียงครั้งละ 100 บาท มีฉาก มีเสื้อผ้าให้ใส่ตามธีมของฉาก หลังจากถ่ายจบ(หนังสั้นประมาณ 1 นาที) ทางหอภาพยนตร์จะทำสำเนาส่งให้ถึงบ้านตามที่อยู่ที่แจ้งไว้
- เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
โรงหนังตังค์แดง “นิเกลโลเดียน”
โรงหนังยุคแรกๆ ของโลกที่แทรกตัวอยู่ในตึกรามของมหานครนิวยอร์ก อเมริกา
- จำลองโรงภาพยนตร์ถาวรแห่งแรกของโลก โดยจะมีหนังฉายวนอยู่เรื่อยๆ สามารถเข้าชมเวลาใดก็ได้ จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำจุดพร้อมให้บริการ
ร้านถ้ำมอง คิโนโตสโคป
- จำลองร้านจัดแสดงประดิษฐกรรมภาพยนตร์ “คิเนโตสโคป” ภาพยนตร์แบบถ้ำมองของโทมัส เอดิสัน ซึ่งเป็นเครื่องฉายในลักษณะ “ถ้ำมอง” ที่ดูได้ครั้งละหนึ่งคน
โรงแรมสคริบบ์
- จำลองอาคารโรงแรมสคริบบ์ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สถานที่ซึ่งพี่น้องลูมิแอร์นำประดิษฐกรรมภาพยนตร์ ออกมาฉายขึ้นจอเก็บค่าดูเป็นครั้งแรก (ลูกเป็นคนประดิษฐ์ พ่อเป็นคนนำออกมาฉาย)
กร็องด์คาเฟ่
- จำลองร้านกาแฟในฉากโรงแรมสคริบบ์ ที่นี้มีเครื่องดื่ม เช่น ชา กาแฟ ขนม และไอศกรีม ไว้บริการ ซึ่งเราคือคนหนึ่งที่รอชมจำลองการฉายภาพยนตร์ ได้ลองชิมรสชาติกาแฟ (ลาเต้) รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟ
ซาลอน อินเดียน
- ห้องนิทรรศการที่อยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรมสคริบบ์ ถัดจากร้านกร็องด์คาเฟ่ลงไป เป็นห้องจัดแสดงประวัติความเป็นมา และสถานที่กำเนิดภาพยนตร์ครั้งแรกในโลก โดยนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส สองพี่น้องตระกูลลูมิแอร์ (Lumière) คือ ออกุสต์ (Auguste) และหลุยส์ (Louis) ที่ได้สร้างประดิษฐกรรมชิ้นสำคัญของโลกภาพยนตร์ เรียกว่า “ซีเนมาโตกราฟ” (Cinématographe) ส่วนผู้ที่นำออกมาฉายขึ้นจอสู่สายตาสาธารณชนก็คือพ่อของพวกเขา “อองตวน ลูมิแอร์” เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2438 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ความยาวทั้งหมด 10 เรื่อง มีคนดู 33 คน
- ภายในซาลอน อินเดียน แห่งนี้ มีการจำลอง การฉายภาพยนตร์ 10 เรื่อง (เท่าที่มีการฉายขึ้นจอของโลก) ความยาวเรื่องละประมาณ 1 นาที การฉายจะมีรอบเวลา เสียค่าบริการคนละ 10 บาท สนใจเข้าชมซื้อตั๋วที่เจ้าหน้าที่ภายในอาคารแห่งนี้ได้เลยค่ะ
- เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-17.00 น.
นิทรรศการจำลองประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย
ประตูสามยอด
- สถานที่เริ่มต้นของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในประเทศไทย เกิดขึ้นที่นี่ มีการฉายภาพยนตร์ครั้งแรกที่ “ประตูสามยอด” ประตูเมืองเก่าในย่านชุมชนการค้าที่คึกคักสมัยรัชกาลที่ 5
โรงละครมงคลบริษัท
- โรงละครสมัยรัชกาลที่ 5 ชาวบางกอกเรียกกันว่าโรงละครหม่อมเจ้าอลังการ ตั้งอยู่หลังโรงหวยริม “ประตูสามยอด” เป็นสถานที่จัดฉายหนังเป็นครั้งแรกในสยาม
- ถัดจากห้องจำหน่ายตั๋ว มีประตูด้านขวา (หันหน้าเข้าโรงละคร) สามารถเข้าไปชมนิทรรศการฉายหนังครั้งแรกของโลก นิทรรศการของมงคลบริษัท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ โดยขยายรายละเอียดประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทยทั้งหมด 3 เรื่อง คือ ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ บุคคลสำคัญ และขบวนการผลิต ที่เกี่ยวกับประเทศไทยทั้งหมด
พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทย
- โรงถ่ายภาพยนตร์เสียงศรีกรุง (เป็นบริษัทสร้างภาพยนตร์ไทยในสมัยรัชกาลที่ 7) สถานที่จัดแสดงวัตถุสิ่งของเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ที่หาดูได้ยาก และทรงคุณค่าที่หอภาพยนตร์อนุรักษ์เก็บรักษาไว้ ภายในจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ในประเทศไทย รวมถึงกระบวนการผลิตภาพยนตร์ หอเกียรติยศ ถ้วยรางวัลต่างๆ ถ้าสนใจเข้าชม จะต้องลงทะเบียน ระบุเวลาที่เจ้าหน้าที่(ร้านมายาพาณิชย์) เพราะหนึ่งรอบ เข้าชมได้เพียง 12 คนเท่านั้น
- เปิดให้ชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันละ 6 รอบ (10.00 น. 11.00 น. 13.00 น. 14.00 น. 15.00 น. และ 16.00 น. ทุกรอบมีวิทยากรนำชม รอบละ 60 นาที (งดการบันทึกภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวและเสียงขณะเข้าชม)
โบกี้รถไฟ
- สถานีรถไฟศีนิมา จำลองอาคารสถานีรถไฟสมัยรัชกาลที่ 7 ในสถานีมีขบวนรถไฟสายภาพยนตร์จอดเทียบชาญชาลา ภายในโบกี้ด้านบนจัดแสดงนิทรรศการภาพยนตร์กับรถไฟ จอดรอรับผู้โดยสารเพื่อพาสู่โลกของภาพยนตร์ (เดินชมด้านในได้เลยค่ะ)
- เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00 – 17.00 น.
รถหนังขายยา
- เดินออกไปทางด้านหลังโบกี้รถไฟ จะเจอ “รถหนังขายยา” มหรสพยอดฮิตของชาวบ้านท้องถิ่นทั่วประเทศ ที่เฟื่องฟูมากหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว ภายในนิทรรศการจัดแสดงรถฉายหนังขายยาของห้างขายยาเพ็ญภาคตราพระยานาค (หนังกลางแปลงที่มีการฉายหนังสลับกับขายยา)
- เปิดให้ชมทุกวัน เวลา 09.30-17.30 น.
“ถ้ำมอง” หนังกระโปรง
- หนังกระโปรง เป็นหนังเร่ประเภทหนึ่ง มีวิวัฒนาการมาจาก “ถ้ำมอง” ลักษณะเป็นกล่องหรือหีบที่เจาะช่องเพื่อให้ผู้ชมสอด(ส่อง)ตาดูทีละคน เป็นประดิษฐกรรมที่มีมาแต่โบราณนับพันปี ในอดีตจะมีแต่รูปภาพทิวทัศน์ ต่อมา โทมัส เอดิสัน ได้คิดค้น Kinetoscpoe ที่ฉายภาพเคลื่อนไหวภายในตู้ และให้ผู้ชมหยอดเหรียญดูได้ทีละคน
- ประเทศไทยก็มีผลิตหลายแบบ แต่แบบที่เราได้ดูกันนี้ เรียกว่า หนังกระโปรง (เป็นหนังขาวดำ ภาพเคลื่อนไหว)
วิวมาสเตอร์ ฉายภาพนิ่งแบบสไลด์
- ใกล้กับหนังกระโปรง มีกล้องวิวมาสเตอร์ ไว้บริการฉายภาพนิ่งแบบสไลด์ เราสามารถเลื่อนสไลด์ดูไปมาได้ เสียค่าดู 2 บาท และ 5 บาท ตามประเภทของหนัง
- กล้องวิวมาสเตอร์ เริ่มแพร่หลายในประเทศไทย ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีพ่อค้าทำแผงเร่-รถเร่ จัดเอากล้องวิวมาสเตอร์ หลายๆ ตัว ยึดติดเรียงแถวกับแผง พร้อมเอาหน้าซองแผ่นรีลซึ่งพิมพ์ภาพสีสวยงาม ติดแขวนโชว์เป็นชั้นๆ ด้านบน
ลานดารา
- ลานเกียรติยศดาราไทย จัดทำขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแก่ดาราภาพยนตร์ไทย โดยเชิญมาประทับรอยมือ รอยเท้า และจารึกชื่อบนลานดาราหน้าโรงภาพยนตร์ศรีศาลายา ซึ่งมีต้นแบบมาจาก Chinese Theatres ฮอลลีวู้ด เพื่อเป็นอมตนุสรณ์ให้แฟนภาพยนตร์และผู้สนใจได้เรียนรู้ รำลึกถึง
โรงภาพยนตร์ศรีศาลายา
โรงหนังชุมชนขนาด 121 ที่นั่ง จัดภาพยนตร์ที่หอภาพยนตร์อนุรักษ์ไว้ และภาพยนตร์จากทั่วโลก โดยจะคัดเลือกเรื่องจะที่จะฉายในแต่ละเดือนว่าจะเป็นธีมอะไร และจะรวบรวมมาไว้เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนเรื่องเวลาในการฉายนั้นก็เหมือนภาพยนตร์ที่ฉายตามโรงหนังปกติทั่วไป นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ ผ่านการจัดฉายภาพยนตร์อีกด้วย
- เข้าชมฟรี ลงชื่อ(ลงทะเบียน)ไว้ที่หน้าโรงหนัง เปิดให้บริการ (รอบฉาย)
– วันอังคาร-ศุกร์ เวลา 17.30 น.
– วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00 น. และ 15.00 น.
– วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 13.00 น.
ประติมากรรมรำลึก
- กรมหลวงสรรพสาครศุภกิจ
- ผู้เห็นอนาคตของภาพยนตร์
- เพลงหวานใจ
- จอร์จ อีสต์แมน และโทมัส เอดิสัน
- บัตเตอร์ คีตัน
- ฌอง กาแบง
- ช่อง-เชิด
- พลเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพ็ชรอัครโยธิน
ห้องสมุดและโสตทัศนสถาน เชิด ทรงศรี
ให้บริการค้นคว้า ชมภาพยนตร์ วีดีทัศน์ หนังสือ วารสารภาพยนตร์ รูปภาพ สิ่งพิมพ์ โฆษณาเผยแพร่เกี่ยวกับภาพยนตร์ งานวิจัย บทความวิชาการ ตลอดจนสื่อโสตทัศน์ที่เกี่ยวกับภาพยนตร์
- เปิดบริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. เว้นวันหยุดราชการ
ร้านหลงทาง
ร้านขายอาหาร เมนูข้าวไข่เจียว ทรงเครื่อง (ไข่ 2 + เครื่อง) มี 2 ราคา คือ 2 อย่าง 30 บาท และ 3 อย่าง 35 บาท
- เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น.
จากที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงมายาเล็กๆ บางฉากเท่านั้นเอง ถ้าจะให้ได้อรรถรส ลึกซึ้งแล้วละก็ ต้องสัมผัสด้วยตัวท่านเอง ประดิษฐกรรมล้ำค่าหาดูยากรอการเยี่ยมเยือน … แนะนำค่ะ
หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)
ที่อยู่ : 94 หมู่ 3 ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศัพท์ 0-2482-2013-14, 0-2482-1087-88 โทรสาร 0-2482-2015
การเดินทาง :
- รถประจำทางปรับอากาศ (รถปอ.) สาย 515, 547, 84ก.
- รถประจำทาง (รถเมล์) สาย 124, 125, 84ก
- รถยนต์ส่วนบุคคล จากกรุงเทพฯ ขับจากทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี, ถนนหมายเลข 338 และ ถนนหมายเลข 3414 (ระยะทางประมาณ 28 กม. ใช้เวลา 25 นาที)
ประวัติความเป็นมา (พอสังเขป)
- ภาพยนตร์เกิดขึ้นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2438 เมื่อนักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส ตระกูลลูมิแอร์ นำภาพยนตร์ชนิดฉายขึ้นจอออกฉายเก็บค่าดูจากสาธารณชนเป็นครั้งแรกที่กรุงปารีส และหลังจากนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
- ภาพยนตร์คือหนึ่งในมรดกที่ควรค่าแก่การเก็บรักษา จุดเริ่มต้นผลักดันให้มีการจัดตั้งหน่ายงานเพื่อทำหน้าที่เก็บรักษาภาพยนตร์ เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2441 โดยช่างถ่ายภาพชาวโปแลนด์คือ “เบเลสลอว์ มาตุสซิวสกี” ซึ่งลงทุนตีพิมพ์สมุดเล่มเล็กๆ ข้อเรียกร้องให้มีหน่วยงานดังกล่าว เวลาผ่านไป 35 ปี จึงมีการจัดตั้งหน่วยงานทำหน้าที่เก็บรักษาภาพยนตร์ขึ้นเป็นแห่งแรกในโลก ที่เรียกว่า “หอภาพยนตร์ (FILMARCHIVE)” ณ กรุงสตอคโฮล์ม ประเทศสวีเดน และหลังจากนั้นได้มีการจัดตั้งหอภาพยนตร์ทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐและของเอกชนขึ้นมาทีละรายสองรายเป็นลำดับในประเทศต่างๆ
สำหรับประเทศไทย เคยมีความคิดในการจัดเก็บรักษาภาพยนตร์ของชาติอย่างเป็นทางการครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2509 แต่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และเมื่อเวลาผ่านไป จนถึงปี พ.ศ. 2524 มีผู้สนใจค้นคว้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ ได้ค้นพบฟิล์มภาพยนตร์เก่าสมัยรัชกาลที่ 7 ของกองภาพยนตร์เผยแผ่ข่าว กรมรถไฟหลวงในอดีต จึงเรียกร้องต่อสาธารณะผ่านทางสื่อมวลชน ให้ทางราชการดำเนินการอนุรักษ์จัดตั้งหน่วยงานทำหน้าที่เก็บรวบรวมและอนุรักษ์ภาพยนตร์ขึ้นในประเทศไทย
ในที่สุดกรมศิลปากร ได้จัดทำโครงการ จัดตั้งหอภาพยนตร์แห่งชาติและขออนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการ และได้รับอนุมัติเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2527 เรียกชื่อว่า “หอภาพยนตร์แห่งชาติ” และชื่อภาษาอังกฤษว่า “THE NATIONAL FILM ARCHIVE”
ภารกิจในระยะแรกของหอภาพยนตร์แห่งชาติ คือการแสวงหาภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ โดยเน้นที่ผลงานของคนไทยหรือของชาติ ซึ่งคนไทยได้เริ่มรู้จักภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2440 และเริ่มสร้างภาพยนตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 เป็นต้นมา
ในปี พ.ศ. 2540 หอภาพยนตร์แห่งชาติได้ย้ายสถานที่ตั้งจากอาคารเก่าในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ ไปยังสถานที่ตั้งใหม่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และในปี ปี พ.ศ. 2544 ได้มีการเรียกร้องขอปฏิรูปหน่วยงานเป็น องค์การมหาชน โดยใช้เวลาเรียกร้องยืนหยัดต่อเนื่องนานถึง 8 ปีเต็ม จึงประสบความสำเร็จได้รับการจัดตั้งเป็น “หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน)” ในปัจจุบัน
หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ให้บริการสาธารณะใน 2 ลักษณะ
1. การให้บริการแก่ผู้สนใจเข้ามาขอศึกษาค้นคว้าจากภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์ของหอภาพยนตร์ ซึ่งหอภาพยนตร์จัดให้บริการทำนองเดียวกับหอสมุดหรือหอจดหมายเหตุและให้บริการทำสำเนาภาพยนตร์และสิ่งเกี่ยวเนื่อง โดยผู้ใช้บริการต้องปฎิบัติตามระเบียบและเสียค่าบริการ
2. การให้บริการแก่สาธารณชนเข้าชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่หอภาพยนตร์ จัดขึ้น เช่น รายการจัดฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ของหอภาพยนตร์ การแสดงนิทรรศการ การบรรยาย การอบรม รวมทั้งการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์ไทยของหอภาพยนตร์