เรามีโอกาสไปเที่ยวชมวิถีชุมชนคนคลองมหาสวัสดิ์ กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ จังหวัดนครปฐม ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เที่ยวได้ในวันเดียว(เราไปวันอาทิตย์) กับ 5 จุด 5 ไฮไลท์สำคัญที่ต้องบอกต่อ นั่นคือ บ้านนาบัว บ้านข้าวตัง บ้านฟักข้าว สวนกล้วยไม้ และบ้านผลไม้(สวนส้มป้าแจ๋ว)
การจะเที่ยวชมธรรมชาติให้ได้อรรถรส ป้าหลิ๋มแห่งบ้านข้าวตัง แนะนำให้นั่งเรือ ซึ่งเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวทุกวัน ส่วนวันเสาร์และวันอาทิตย์ ไฮไลท์สำคัญคือตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ (ตลาดน้ำคลองมหาสวัสดิ์ บ้านศาลาดิน) ที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้าน ชาวสวน นำผัก ผลไม้ สินค้าพื้นเมือง อาหารอร่อย ครัวคุณต๋อยก็มาเปิดครัวบริการนักท่องเที่ยวที่บ้านผลไม้(สวนส้มป้าแจ๋ว)
จุดเช็คอินลงเรือคลองมหาสวัสดิ์มี 2 จุด
- จุดแรก วัดสุวรรณาราม เช็คอินอยู่ที่บ้านผู้ใหญ่มนูญ ร้านก๋วยเตี๋ยวอาก๋ง 100 ปี หากนักท่องเที่ยวจะชมภายในวัดสุวรรณารามก่อนลงเรือก็ได้ ชมศาลาการเปรียญไม้เก่าแก่กว่า 50 ปี สักการะหลวงพ่อพุทธสุวรรณบวรรังษี และนมัสการรูปหล่อบูรพาจารย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล
- จุดที่สอง เช็คอินที่ร้านกาแฟสด อยู่ติดกับบ้านข้าวตัง ณ บ้านศาลาดิน เป็นสถานที่เดียวกับตลาดน้ำบ้านศาลาดิน
นั่งเรือชมธรรมชาติ เช็คอินที่วัดสุวรรณาราม เที่ยว 5 จุด 5 ไฮไลท์ ดังนี้
1. บ้านนาบัว
- นาบัว (บัวหลวง) คือ ไฮไลท์ของบ้านศาลาดิน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามของดอกบัวแล้ว ยังได้เรียนรู้วิธีการปลูกบัว วิธีการตัดแต่ง วิธีการเก็บบัวขาย ที่นี่มีน้ำดื่มไว้บริการ แต่ถ้าอยากเสียเงินเพิ่ม เขาก็มีชาบัวขาย หรือถ้าอยากเรียนพับบัว ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเช่นกัน
2. บ้านข้าวตัง (บ้านป้าหลิ๋ม)
- ไฮไลท์ที่นี่ ชิมฟรีข้าวตังไม่อั้น มีน้ำดื่มไว้บริการ ชมสาธิตการทำข้าวตัง หรือถ้าอยากจะรีแล็กซ์ก็ลองขี่จักรยานเที่ยวใกล้ๆ แต่ขอให้แชะ และแชร์แค่นั้นเอง
- วันเสาร์ วันอาทิตย์ จุดนี้มีตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ (ตลาดน้ำคลองมหาสวัสดิ์ บ้านศาลาดิน) เปิดขายสินค้าจากชาวบ้าน ชาวสวน ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ อาหารคาว หวาน ขนมโบราณ ราคาไม่แพง ส่วนใครที่ไม่ได้เช็คอินลงเรือ ก็สามารถเช่าจักรยานขี่ได้ในราคาคันละ 20 บาท แต่ไม่มีเส้นทางจักรยานให้ ใครอยากถ่ายรูปนาข้าว นาบัว ชมธรรมชาติสองข้างทาง ดูโน้น ดูนี่ ก็ปั่นไปเที่ยวชมได้ตามอัทธยาศัย
3. บ้านฟักข้าว
- ชมสวนฟักข้าว และชิมรสชาติผลิตภัณฑ์จากฟักข้าว เช่น น้ำฟักข้าว คุกกี้ฟักข้าว หมี่กรอบฟักข้าว ฟังเพลงแหล่ เสน่ห์เสียงจากลูกคอที่หาฟังได้ยากจากเจ้าของบ้าน
4. สวนกล้วยไม้
- ไฮไลท์ คือ กล้วยไม้นานาพันธุ์ สวยงาม จนต้องมอง แต่ถ้าต้องการเดินชมภายในสวน คนขับเรือจะทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศน์พาชม พร้อมอธิบายถึงพันธุ์กล้วยไม้แต่ละชนิดแทนเจ้าของสวนซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ที่อาจจะไม่ถนัดในการพูดคุย ส่วนใครที่อดใจไม่ได้ เห็นดอกไม้สวย จะเดินชมสวนเอง ถ่ายรูปกล้วยไม้ไปด้วยก็ได้ แต่ขอให้ช่วยแชร์ให้ด้วยค่ะ หรือหากใครอยากซื้อกลับบ้าน ที่นี่มีขายทั้งแบบเป็นต้น และเป็นกำ
5. บ้านสวนส้ม (บ้านป้าแจ๋ว)
- โหด มัน ฮา คือไฮไลท์บ้านป้าแจ๋ว(อยู่ตรงข้ามวัดสุวรรณาราม) นั่งรถอีแต๋นชมสวนส้ม 80 ไร่ (นอกรอบ ไม่รวมอยู่กับค่าใช้จ่ายนั่งเรือ) ถ้าอยากนั่งต้องจ่ายตังค์เพิ่ม คนละ 10 บาท นั่งได้ 10 (1 รอบ รวม 100 บาท) คนขับเขาจะขับแบบเสียวๆ ถ้าไม่เสียว ไม่กรี๊ด ไม่เก็บตังค์ (รับประกันความเสียว) แต่ถ้าใครไม่อยากนั่งรถอีแต๋น ที่นี่มีผลไม้ มีส้มโอให้ชิมฟรี
- วันเสาร์ วันอาทิตย์ มีเมี่ยงดอกบัว เปิดครัวคุณต๋อย มีอาหารอร่อย ให้ลิ้มลอง
ค่าใช้จ่ายในการนั่งเรือ
ราคาค่านั่งเรือลำละ 350 บาท เรือ 1 ลำ นั่งได้สูงสุด 6 คน มีค่าเช็คอิน(5จุด)คนละ 100 บาท มากี่คนก็จ่ายตามจำนวนคน ถ้ามาครบ 6 คน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือ 950 บาท ระยะเวลาการนั่งเรือประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยวว่าอยากจะอยู่นานในจุดไหน (เร็วสุด 1 ชั่วโมง ช้าสุด 3 ชั่วโมง)
วิถีชุมชนคนคลองมหาสวัสดิ์ วันเดียวเที่ยวได้ ไม่ไกลกรุงเทพฯ เที่ยวได้ทุกวัน ว่างวันไหน ไปผ่อนคลายอิริยาบถ นั่งเรือชมธรรมชาติ 5 จุด 5 ไฮไลท์ พิเศษวันเสาร์ วันอาทิตย์ ถ้าไม่ลงเรือ ก็แวะไปกินข้าวบ้านป้าแจ๋ว ครัวคุณต๋อย มีอาหารอร่อยรออยู่ แวะตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ (ตลาดน้ำคลองมหาสวัสดิ์ บ้านศาลาดิน) ซื้อกล้วย ซื้อผัก กลับบ้าน ก็ฟินได้ ในวันเดียว … แนะนำค่ะ
บ้านศาลาดิน
ที่อยู่: 58/2 หมู่ 3 ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
เวลาเปิดปิด : เวลา 08.00 – 17.00 น.
โทรศัพท์: 081-498-6340, 083-000-4371
การเดินทาง
- รถยนต์ส่วนบุคคล … จากกรุงเทพฯ ขับจากทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี, ถนนบรมราชชนนี/ถนนหมายเลข 338 และ นฐ.4006 ไปตำบลศาลายา มุ่งหน้าบ้านศาลาดิน ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร (35 นาที)
แผนที่จากกูเกิล