วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ อยากจะชวนชาวคิดจะพัก มาพักผ่อนหย่อนใจ ชาร์จแบตฟินๆ บรรยากาศชิวๆ กับทริป “วันเดียวก็เที่ยวได้สไตล์มอญ” เมื่อนึกถึงสถานที่เที่ยวแนวธรรมชาติแล้ว หลายคนอาจไม่ได้คิดถึงกรุงเทพ เป็นที่แรก แต่จะมีใครรู้ไหมว่า นอกจากกรุงเทพ จะมีร้านอาหาร แหล่งช้อปปิ้งในตัวเมืองแล้ว กรุงเทพยังมีสถานที่เที่ยวธรรมชาติ บรรยากาศริมน้ำ วิถีชีวิตชาวมอญ ที่หลายๆ คนยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ถ้าอยากรู้กันแล้วว่าทริปนี้ จะพาไปที่ไหนบ้าง ไปชมกันเล้ยย

 

1. ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมมอญ ชุมชนบางกระดี่ ที่มีมอญกลุ่มแรกที่มาตั้งถิ่นฐานคือทหารมอญจากเมืองหงสาวดี อพยพเข้ามาในรัชกาลที่2 ซึ่งต่อมาได้มีกลุ่มมอญอีกกลุ่มหนึ่งถูกกวาดต้อนมาขุดลอกคลองด่าน เมื่อเสร็จงานแล้วจึงตั้งรกรากอยู่ที่นี่และมีการสร้างวัดและศาลเจ้าพ่อบางกระดี่เป็นศูนย์รวมจิตใจ

 

 

ชมเครื่องมือ เครื่องใช้ วัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี เครื่องดนตรี เครื่องประดับโบราณ วิถีชีวิตชาวมอญที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยชาวมอญที่อพยพเข้ามานั้น ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่บริเวณริมน้ำ มีความเชื่อว่า น้ำคือส่วนประกอบสำคัญในการดำรงชีวิต รวมทั้งเป็นองค์ประกอบในการทำการเกษตร และสาธารณูปโภคต่างๆ อีกด้วย

 

นอกจากนี้ ชาวมอญชาวยังมีภูมิปัญญาชาวบ้าน ในการทำแส้จาก ‘ต้นจาก’ เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ของชาวมอญในสมัยก่อน ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่หาดูยากในปัจจุบัน

 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่อยากให้พลาด หากเดินทางมาที่ชุมชนบางกระดี่คือ การทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารเพลและสังฆทาน ณ วัดบางกระดี่ รับศีลรับพรแบบภาษามอญ

 

รับประทานอาหารกลางวัน เมนูชาวมอญ ณ ลานจัดเลี้ยงวัดบางกระดี่ เมนูแนะนำ ‘ยำใบชะคราม’ รสชาติเปรี้ยวหวาน ถูกใจทั้งผู้ใหญ่และเด็ก นอกจากนี้ยังมีเมนู แกงกระเจี๊ยบ น้ำพริกป่า ปลาทอด ฝีมือชาวมอญแท้ๆ

 

 

2. ทำบุญไหว้พระ ‘วัดกู้’ ก่อนร่องเรือสู่เกาะเกร็ด

วัดกู้ (วัดพระนางเรือล่ม) เดิมมีชื่อว่า “วัดท่าสอน” หรือ “วัดหลังสวน” เป็นหนึ่งในวัดที่มีท่าเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเดินทางข้ามไปยังเกาะเกร็ด เป็นวัดเก่าแก่ มีศิลปะแบบมอญผสมผสาน เหตุผลที่ชื่อวัดกู้นั้น เนื่องจากเป็นสถานที่อัญเชิญพระศพของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่เกิดอุบัติเหตุเรือล่ม และได้เชิญพระศพขึ้นที่วัดแห่งนี้ ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่า “วัดกู้” และเรียกสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ฯ ว่า “พระนางเรือล่ม” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

ถัดจากนี้ เชิญชาวคิดจะพักไปกราบไหว้สักการะไปไหว้พระพุทธรูปองค์สีขาวขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ
พระอุโบสถงดงามหลังนี้ สร้างแล้วเสร็จใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น จึงมีประชนชนนิยมไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีความเลื่อมใสศรัทธาในด้านประสบความสำเร็จ เพราะใช้เวลาสร้างโบสถ์ให้แล้วเสร็จในระยะเวลาอันสั้น โดยปราศจากอุปสรรคใดๆ

 

ถัดจากนั้น เยื้องกันมีโบสถ์เก่า ภายในโบสถ์มีองค์หลวงพ่อสมปรารถนาประดิษฐานอยู่ ผนังโบสถ์ถูกระบายด้วยภาพเขียน บอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิตของชาวมอญในสมัยก่อน

3. ล่องเรือข้ามน้ำสู่เกาะเกร็ด

การเดินทางไปยังเกาะเกร็ด ขอแนะนำให้ชาวคิดจะพัก เดินทางด้วยเรือที่วัดกู้ ค่าเดินทางเพียง 12 บาทเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั่งเรือ เราจะได้ชมบรรยากาศสองฟากฝั่งของแม่น้ำ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ที่อาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งเรือมาสักพัก ก่อนลงจากเรือ สังเกตเห็นเจดีย์เอียง เดิมเป็นเจดีย์ที่ตั้งตรง ต่อมาน้ำเซาะตลิ่งพัง จึงทำให้เจดีย์ทรุดตัวและเอียงลง

 

 

เมื่อลงจากเรือ เราจะพบบรรยากาศของเกาะเกร็ด ที่ท่าเรือจะมีสถานที่สำหรับให้อาหารปลา ถัดจากท่าเรือขึ้นมาบนเกาะ จะมีร้านขนมไทย ร้านอาหาร งานหัตกรรมฝีมือของชาวบ้าน วางขายเรียงรายตามสองฝั่งทางเดิน โดยของขึ้นชื่อและเป็นเอกลักษณ์ของเกาะเกร็ดคือ เครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้าน ที่มีความสวยงาม

 

อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่นักท่องเที่ยวสามารถทดลองปั้นด้วยตนเองได้ด้วย สำหรับผู้ที่มองหาสถานที่เที่ยว ไม่ไกลจากกรุงเทพ พักผ่อนวันหยุดชิวๆ ริมน้ำ ต้องไปเยือน 3 สถานที่นี้ให้ได้ !!