ตราด (Trat) เป็นจังหวัดที่มีเกาะจำนวนมากจังหวัดหนึ่ง อยู่ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งหลายเกาะมีความสวยงาม หนึ่งในนั้นคือ เกาะช้าง และวันนี้เรามีโอกาสไปเยือนเกาะช้างเลี้ยวซ้าย ที่นอกจากจะได้ชมบรรยากาศ และสีสันของกิจกรรมการวิ่งเชิงท่องเที่ยว Trat Dream Island Run 2018 “วิ่งตามหาเกาะในฝัน…เกาะช้างเลี้ยวซ้าย” แล้ว เรายังมีโอกาสได้ไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิต อันเป็นไฮไลท์สำคัญของเกาะช้างเลี้ยวซ้ายแห่งนี้อีกด้วย ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่ผิดหวัง
สุดแผ่นดินตะวันออกที่แหลมงอบ
เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าจากกรุงเทพฯมุ่งหน้าสู่ตราด แวะเรื่อยๆ รายทาง (กินข้าว เข้าห้องน้ำ) และก่อนที่จะข้ามฟากไปเกาะช้างกันในช่วงบ่ายๆ เราได้แวะถ่ายรูป ชมวิว ที่ป้ายสุดแผ่นดินตะวันออกและประภาคารแหลมงอบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวต้องห้าม…พลาด ของตราด
ข้ามเรือเฟอร์รี่ ต้องเลี้ยวซ้าย
การที่จะไปเที่ยวบนเกาะช้างได้นั้น ทางเดียวที่สามารถไปให้ถึง (บรรทุกคนและรถยนต์) นั่นคือ โดยสารเรือเฟอร์รี่ ซึ่งมี 2 ท่าหลักๆ คือ ท่าเรือเกาะช้างเฟอร์รี่(อ่าวธรรมชาติ) และท่าเรือเซนเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ (Center point Ferry) ซึ่งไม่สามารถจองล่วงหน้าได้ ใครมาก่อน ขึ้นเรือก่อน ค่าบริการและเวลาในการเดินทางจะแตกต่างกัน
- ท่าเรือเกาะช้างเฟอร์รี่(อ่าวธรรมชาติ) ตั้งอยู่ ต.อ่าวธรรมชาติล่าง มีความถี่ในการแล่นเรือทุก 30 นาที ระยะเวลารอขึ้นเรือประมาณ 1 ชั่วโมง นี่คือเวลาที่เรารอขึ้นขาไป เป็นช่วงเวลาปกติที่ไม่ใช่เทศกาล (แต่ถ้าเป็นเทศกาลอาจรอนานประมาณ 3-5 ชั่วโมง) ระยะเวลาที่เรือแล่นในทะเลประมาณ 40 นาที (เวลาที่เรานั่งเรือขาไป)
- ท่าเรือเซนเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ (Center point Ferry) เป็นท่าเรือที่อยู่บริเวณ ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ให้บริการทุกๆ ชั่วโมง (ความถี่ในการออกเรือ) ระยะเวลารอขึ้นเรือประมาณ 2 ชั่วโมง (เวลาที่เรารอ ขากลับ) ระยะเวลาที่เรือแล่นในทะเลประมาณ 1 ชั่วโมง (เวลาเท่ากับความถี่ของเรือ)
หลังจากข้ามฟากมาถึงท่าเรือบนเกาะช้างแล้ว เราต้องเลี้ยวไปทางซ้าย ซึ่งนี่คือที่มาของเกาะช้างเลี้ยวซ้าย โซนที่มีธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ มีความอุดมสมบูรณ์ของสวนผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนีที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุไอโอดีนที่เป็นดินภูเขาไฟ มีอาหารทะเลสดใหม่ (กุ้ง หอย ปู ปลา) มีวิถีชุมชนที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะชุมชนบ้านสลักคอก (นั่งเรือมาดชมความงามป่าไม้ชายเลน วิถีชีวิตชาวประมงริมอ่าว) ฯลฯ
แต่ถ้า เกาะช้างเลี้ยวขวา จะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แตกต่าง มีความทันสมัย แสงสี และความบันเทิง อยู่ที่โซนนี้
สีสันสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน
ทริปนี้มีค้างคืน (2 วัน 1 คืน) ที่พักดีริมอ่าวท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม เห็นขอบฟ้าและผืนน้ำ ภูเขา ผืนป่าเขียวขจี อากาศดี บริสุทธุ์ที่ Good View Seafood & Resort
ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ล่องเรือมาดที่ชุมชนบ้านสลักคอก
ไฮไลท์ของเราวันนี้คือนั่งเรือมาดชมธรรมชาติของป่าชายเลน ชมพันธุ์ไม้โกงกางที่มีประโยชน์มากมายควรค่าแก่การอนุรักษ์ เหนือสิ่งอื่นใด ป่าไม้โกงกางเหล่านี้ ช่วยป้องกันรักษาชายฝั่งทะเลจากการกัดเซาะของกระแสน้ำ และเป็นแนวกำบังคลื่นลมที่เคลื่อนเข้ามาปะทะชายฝั่งอีกด้วย …นี่คือ วิถีธรรมชาติ วิถีชุมชน
ช่วงเวลานี้(เดือนนี้)ที่เราไป เป็นช่วงน้ำลด(น้ำลง) การนั่งเรือจึงเป็นแนวยาวเรียบขวาหันหน้าสู่ทะเล และกลับในเส้นทางเดิม แต่ถ้าเป็นช่างที่น้ำขึ้นความสวยงามจะมีมากกว่านี้ (นั่งวนในเส้นทางที่กว้างขึ้น)
การนั่งเรือมาดชมวิวทิวทัศน์ของอ่าวสลัก หมู่บ้านชาวประมง ป่าโกงกาง และชมเกาะช้างใต้ ใช้เวลาไป-กลับ 45 นาที มีค่านั่งเรือคนละ 200 บาท ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ หากจะรับประทานอาหารค่ำ ชมพระอาทิตย์ตกที่อ่าวสลักคอก มีค่าใช้จ่ายคนละ 1,200 บาท
อาหารทะเล สดใหม่ อร่อยล้ำ
หลังจากนั่งเรือมาด สัมผัสธรรมชาติกันเต็มปอด ก็ได้เวลาเติมพลัง ถึงมื้อเที่ยงพอดี แวะอิ่มอร่อยกับอาหารทะเล สด ใหม่ ที่ร้านสลักเพชรซีฟู้ด ต้องบอกว่า อร่อยทุกเมนู อาหารทะเล สดใหม่มากๆ น้ำจิ้มสะใจ คนขาย พนักงาน อัธยาศัยดี บริการประทับใจ
คิดจะพัก คิดถึงเกาะช้าง ถ้าอยากได้ธรรมชาติเต็มปอดก็เลี้ยวซ้าย แต่ถ้าอยากจะได้ความทันสมัย ความบันเทิงก็เลี้ยวขวา หรือมีเวลาก็เที่ยวในทุกๆ สถานที่ในจังหวัดตราด หนึ่งเมืองใน 55 เมืองรองที่มีความพร้อมรอการเยี่ยมเยือนจากนักท่องเที่ยวทุกฤดูกาล ที่มีความสะดวกในเรื่องของการเดินทาง อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ และที่สำคัญมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย เช่น น้ำตกธารมะยม ชุมชนต่างๆ (น้ำเชี่ยว ช้างทูน ห้วยแร้ง ท่าระแนะ) ตามรอยพระเจ้าตากสินที่วัดไผ่ล้อม (ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี) และถ้าอยากจะเห็นภาพรวมทั้งหมดของยุทธนาวีและความเป็นมาของทหารเรือไทยสมัยก่อน ต้องไปพิพิธภัณฑ์เมืองตราด
สำหรับเราแล้ว ยังเที่ยวไม่ทั่วเกาะช้างเลี้ยวซ้าย จะขอไปอีกสักครั้งเมื่อโอกาสอำนวย และอยากจะบอกว่า… ตราด เมืองแห่งความสุขสีเขียว เมืองรอง ที่ไม่เป็นรองใคร เชิญชวนไปสัมผัสดูสักครั้ง เชื่อเถอะว่า ครั้งต่อไปต้องมีแน่นอน !
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเกาะช้าง : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด
ที่อยู่ : Tourism Authority Of Trat Office, อนุสรณ์สถาน ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ ตราด 23120
โทรศัพท์: 039-597-259-60
ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก
ที่อยู่ : ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด 23170
โทรศัพท์ : 084-362-5091, 087-748-9497
เวลาเปิดปิด : 08.00-16.00 น.
การเดินทาง : (กรุงเทพฯ – เกาะช้าง)
- รถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด (www.transport.co.th) และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-ตราด ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออก หรือเอกมัย ถนนสุขุมวิท และสถานีขนส่งสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
(สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 , จองตั๋วรถโดยสารออนไลน์ที่ www.busticket.in.th หรือ www.thaiticketmajor.com หรือสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ www.thairoute.com - สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (www.bangkokair.com) เปิดบริการเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ-ตราด ทุกวัน วันละ 3 เที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง (สำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0 2270 6699 หรือสำนักงานตราด โทร. 0 3952 5299-300 สำนักงานสนามบินจังหวัดตราด โทร. 0 3952 5767-8 สำนักงานเกาะช้าง โทร. 0 3955 1654-5)
- รถยนต์ส่วนบุคคล
– เส้นทาง มอเตอร์เวย์ ( Motor Way ) ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร เส้นทางบ้านบึง-แกลง-จันทบุรี-ตราด (ทางหลวงหมายเลข 7 ทางหลวงพิเศษกรุงเทพฯ-ชลบุรี)
– เส้นทาง บางนา – ตราด (หลวงหมายเลข 3 ) หรือทางยกระดับ บางนา – บางปะกง ต่อด้วยหลวงหมายเลข 344 ถึงอำเภอแกลง และต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจันทบุรี เพื่อมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองตราด ระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร
(กรณีไม่ได้นำรถส่วนตัวบุคคลไป อาจจะต้องเช่ารถที่สนามบิน หรือในตัวเมืองตราด หรือบริษัททัวร์ เพื่อความสะดวกในการเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะ)