วันนี้จะพาไปชมตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji Fish Market) ในอีกมุมหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่พาไปนั่งกินซูชิบนสายพานที่อยู่ภายในร้าน หรือกินอาหารทะเลสดใหม่ในร้านหรู แต่เราจะพาไปเดินดูบรรยากาศของตลาดสด ที่ซึ่งมีสินค้าสารพัดชนิด (อาหารและวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง) เรียงรายขายในร้านเล็ก ร้านใหญ่ ภายในตรอกแคบๆ ที่ต้องเบียดเสียดผู้คนกันเข้าไปให้สุดทุกซอกซอย ว่ามีร้านขายอะไรกันบ้าง เผื่อว่าจะได้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านเป็นของขวัญ ของฝาก ถ้าไม่ลำบากในการหอบหิ้วขึ้นเครื่องกลับไทย
ตลาดปลาสึกิจิ ถือเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเมื่อเดือนเมษายนปี พ.ศ. 2560 สำนักข่าวต่างประเทศ “CNN” ได้จัดอันดับให้ ตลาดปลาสึกิจิ เป็นตลาดสดที่ดีที่สุดในโลกเป็นอันดับที่ 2 รองจากอันดับ 1 ตลาด ลา โบเกรา (La Boqueria) ตลาดอาหารที่ใหญ่ที่สุด ในเมืองบาร์เซโลนาของประเทศสเปน (มีการจัดอันดับ 1-10) นี่คือสิ่งที่บ่งชี้ว่า ตลาดสดแห่งนี้ คือแหล่งขายอาหารทะเลที่ดีที่สุด ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยี่ยมเยือน ทำให้ตลาดแห่งนี้ยิ่งมีชีวิตชีวา ซึ่งเราจะพาไปเก็บภาพความประทับใจและความทรงจำ ครั้งสุดท้าย (หมุดหมายใหม่ของเราเป็นต้นปี 2562) ด้วยเพราะในวันที่ 6 ตุลาคม 2561 ตลาดแห่งนี้จะเปิดขายเป็นวันสุดท้าย เพื่อปรับปรุงพื้นที่เตรียมรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 (หรือ โตเกียว 2020) โดยจะย้ายตลาดปลาไปอยู่ที่แห่งใหม่บนเกาะโอไดบะ (Odaiba) ในชื่อใหม่ว่า “โทโยสุ” (Toyosu) และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ตุลาคม 2561
เดินเข้าไปชมภายในตลาดกันค่ะ ในความคึกคัก และแออัด แต่ก็แฝงไว้ซึ่งเสน่ห์และกลิ่นอายของตลาดสดยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ ผู้คนส่งเสียงจอแจ เป็นอีกวิถีชุมชนที่ชวนค้นหา
เดินผ่านร้านค้าสองข้างทางที่มีทั้งขายอาหารทะเลสดและแปรรูป อาหารอบ(ตาก)แห้ง อาหารหมักดองชนิดต่างๆ ผักสด ผลไม้(ตามฤดูกาล) เครื่องเทศ เครื่องปรุง มากมายเรียงรายจนลายตา แต่ว่ามีความสุข ตื่นตา ตื่นใจ เดินต่อไป…
มีดคู่ใจคนทำครัว
สำหรับเชฟ และคนที่รักการทำอาหาร(เข้าครัว) แล้วละก็อ ถ้าจะหามีดคู่มือในการทำอาหาร ตลาดแห่งนี้มีให้เลือกหลายร้าน ลองแวะเข้าไปถามไถ่ราคา สลักชื่อตัวเอง เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ซื้อกลับไทย โหลดขึ้นเครื่องได้ ไม่มีปัญหา
ร้านขายถั่วทุกชนิด
ร้านนี้ขายถั่วสารพัด ทั้งที่ยังดิบ และสุก(แปรรูป)แล้ว มากมายหลายชนิด ซึ่งในตลาดแห่งนี้ไม่ใช่มีแค่ร้านนี้ร้านเดียว สองทางผ่านมีให้เห็นตลอด มองเข้าไปภายในร้าน ดูดี (ทั้งถั่วและคนขาย) ก็แวะเขาไปซื้อเลยค่ะ เป็นถั่วที่อร่อยมาก มีแบบธรรมดา แบบหวาน แบบเค็ม เคยซื้อกลับมาไทย นั่งดูทีวีไป กินถั่วไป เพลิดๆ เผลอแปปเดียวหมดแล้ว … เสียดายซื้อมาน้อยเกินไป … คิดถึงตลาดปลาสึกิจิจัง (อยากกินถั่ว)
ร้านขายถ้วยชามก็น่าสนใจ แต่ว่าจะหนักเกินไป ถ้าซื้อกลับไทย แต่ถ้าอยากได้จริงๆ สักใบสองใบที่ชอบมากๆ ก็พอแล้ว
ร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด มีสินค้าสารพัด อยากได้ตะเกียบจัง ลายสวย ซื้อมาสักชุด ไม่หนักเท่าไร โหลดขึ้นเครื่องสบายๆ
วนไป วนมา มีร้านชา คุณป้าชวนชิม ชงใหม่ๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม รสชาติเข้มข้น (ชาเขียว) … ไม่ได้อุดหนุนหรอกค่ะ … แค่ชิม … อะริกาโต้ โกไซมัส
ภายในตลาดปลาแห่งนี้ ทุกซอกซอย หรือแม้แต่บริเวณโดยรอบตลาด มีร้านขายอาหารราคาเยาสารพัด บางร้านก็ไม่มีที่นั่ง สั่งแล้วยืนกินข้างๆ ร้าน ไม่มีใครว่า และบางร้านมีที่นั่งเพียงไม่กี่ที่นั่ง ลูกค้าเป็นทั้งคนในท้องถิ่น และนักท่องเที่ยว แวะเวียนกันเข้าไปนั่ง แม้ด้านหลังจะมีผู้คนเดินผ่าน เบียดเสียด ก็ไม่ทำให้เสียบรรยากาศในการกิน ก็เพราะ นั่นคือตลาดสด (ทำใจได้)
ยิ่งเดินก็ยิ่งเพลิน ดูโน้น ดูนี่ ตลอดทาง เข้าซอยนั้น ทะลุออกซอยนี้ โผล่อีกทีก็ถึงถนนหลักที่จะพากลับไปสถานีรถไฟใต้ดินสึกิจิกันแล้วสิ นี่เป็นสัญญาณบอกว่า เป้าหมายข้างหน้า รอการเยี่ยมเยือน ต้องบอกลาตลาดปลาสึกิจิแห่งนี้กันเสียที ภาพความทรงจำเหล่านี้จะไม่ลืมเลือน !
หากใครได้ไปเยือนโตเกียวในช่วงนี้ จนถึงวันที่ 6 ตุลาคม อย่าพลาดไปเก็บภาพความทรงจำที่ตลาดปลาสึกิจิแห่งนี้นะคะ เพราะต่อจากนั้น คงเหลือไว้แต่ความทรงจำ และตำนานเล่าขานกันต่อไป !!!
* การเดินทาง(เดินใกล้ที่สุด)
1. นั่งรถไฟใต้ดิน สาย Oedo ลงสถานี Tsukiji Shijo เดิน 3 นาที
2. นั่งรถไฟใต้ดินสาย Hibiya ลงสถานี Tsukiji เดิน 5 นาที
* แผนที่จากกูเกิลแมพ (จากสถานี Tsukiji)
