แวะทัก ฮาจิโกะ และ ห้าแยก วุ่นวายที่ชื่อ ชิบุยะ

วันนี้มีความตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าจะไปหาฮาจิโกะที่ชิบุยะกันค่ะ มีเวลาไม่มากนักที่จะแวะไปทักทาย แต่ยังไงก็ต้องไป(เป็นสัญญา) แม้จะเพียงแค่เดี๋ยวเดียว ก็ไม่พลาด …

ทำไมจึงตั้งใจขนาดนั้น ?

ด้วยเหตุผล(ส่วนตัว) …ครั้งแรกที่เที่ยวกับทัวร์ ในวันฟรีเดย์ สถานที่เที่ยว จุดแรกคือ ชิบุยะ ก่อนที่จะแยกย้ายกันเที่ยวตามอัธยาศัย ไกด์พาไปรวมพลที่บริเวณรูปหล่อฮาจิโกะ และได้เล่าความเป็นมาให้ฟัง โดยมีอยู่ช่วงหนึ่ง(จำได้แม่น) ไกด์บอกว่า หากใครก็ตามที่มีโอกาสลูบหัวเจ้าฮาจิโกะ(รูปหล่อนี่แหละค่ะ) จะได้กลับไปที่ประเทศญี่ปุ่นอีก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มีคำยืนยันของสมาชิกในกรุ๊ปเรา ที่พูดแทรกขึ้นว่า “คราวที่แล้วก็มาลูบ” นั่นแหละคือเหตุผลสำคัญ(เชื่อคนง่าย) …

ฮาจิโกะ เป็นใครกันนะ ?

ฮาจิโกะ (Hajiko) เป็นสุนัขพันธุ์อาคิตะ (Akita Dog) สายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ๆ (เกิดเมื่อ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923) …ฮาจิโกะโด่งดังจนเป็นที่รู้จักทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลก ก็ด้วยเหตุผลที่จะเล่าให้ฟัง(สรุปสั้นๆ) ดังนี้ค่ะ

เขาบอกว่า… ฮาจิโกะ ได้พบกับเจ้านายของมันเมื่ออายุ 2 ปี ทุกๆ วันที่เจ้านายออกจากบ้านไปสอนหนังสือ (ศาสตราจารย์อุเอโนะ อาจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ ม.โตเกียว) เจ้าฮาจิโกะ ก็จะคอยไปส่งที่หน้าประตูบ้าน และเมื่อถึงเวลาเลิกงานก็จะวิ่งไปรอรับที่สถานีรถไฟเสมอ(สถานีชิบุยะ) วันหนึ่ง เจ้านายของฮาจิโกะ เกิดเส้นเลือดในสมองแตกขณะสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา … นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจ้าฮาจิโกะก็ไม่เคยได้พบกับเจ้านายของมันอีกเลย แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ในเวลา 15.00 น. เจ้าฮาจิโกะ ก็ยังคงวิ่งไปรอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟไม่เคยขาดแม้สักวัน …

ด้วยชื่อเสียงความสื่อสัตย์และจงรักภักดีของฮาจิโกะ โด่งดังจนทราบถึงพระราชินีญี่ปุ่น พระองค์จึงทรงให้ช่างหล่อรูปทองแดงของฮาจิโกะ (สร้างขณะที่ฮาจิโกะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็เป็นปีสุดท้ายของมัน) และเมื่อฮาจิโกะเสียชีวิตลง รูปหล่อก็ถูกนำไปตั้งยังจุดที่มันเสียชีวิต (ฮาจิโกะเสียชีวิตตอนอายุ 11 ปี) มีคนพบร่างของฮาจิโกะนอนฟุบเสียชีวิตอยู่ที่จุดเฝ้ารอเจ้านาย เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ.1935

รูปหล่อที่เราเห็นกันทุกวันนี้ที่หน้าสถานีชิบุยะ เป็นรูปที่หล่อ(ครั้งที่ 2)ที่หล่อขึ้นมาใหม่แทนรูปหล่อเดิม เนื่องจากรูปหล่อแรกถูกนำไปหลอมใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 …

ไปลูบหัวฮาจิโกะกันดีกว่าค่ะ ? 

เราลงรถไฟที่สถานีชิบุยะ เดินออกไปทางด้านหน้า จะเห็นรูปหล่อของฮาจิโกะ อยู่ซ้ายมือ  มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมาถ่ายรูปคู่ฮาจิโกะ ไม่ขาดสาย … ส่วนเราก็รอคิว เข้าไปลูบหัว ถ่ายรูปคู่กับเขาเหมือนกัน(รีบเลยค่ะ มีคนรอคิว)

ไปเดินช้อปกันต่อดีกว่า… 

ข้ามไฟแดง 5 แยกขึ้นชื่อของชิบุยะไปเลยค่ะ คนเยอะมากๆ ระวังจะเดินชนคนอื่นนะ (อย่ามัวแต่ถ่ายรูป)

 

เดินตรงเข้าไปในซอยเลยค่ะ เข้าไปเดินดูในร้านขายรองเท้า ร้านขายเสื้อผ้า ร้านเกม(กดตู้กาชาปอง) ร้านเครื่องสำอาง ร้านค้าเบ็ดเตล็ด ร้าน 100 เยน ฯลฯ แต่ร้านอาหารไม่ได้เข้าค่ะ(เก็บท้องไว้กินข้าวที่ร้านอาหารใกล้โรงแรมย่านอุเอโนะ) ได้ซื้อเครื่องสำอางบ้างเล็กน้อย (ถูกใจ ถูกตังค์) …ค่ำแล้วนะ ได้เวลากลับกันเสียที หมดเวลากับแสง สี ที่ชิบุยะ …

 

 

 

 

 

 

พวกเราไปชิบุยะกันทุกปี ความประทับใจยังเหมือนเดิม ไม่เคยเบื่อ แต่ก็ยังเดินไม่ครบทุกซอยหรอกค่ะ (ถนนแต่ละสายมีซอยเชื่อมถึงกัน) เคยแวะร้าน Disney Store และห้าง MUJI เมื่อปีก่อนๆ (ปีนี้ไม่ได้ไปเดินโซนนั้น จึงไม่ได้เก็บภาพมาฝาก มีแต่ภาพเก่า)

ถ้าใครมีโอกาสไปชิบุยะ ลองแวะไปทักทาย(ลูบหัว)ฮาจิโกะดูสิคะ เผื่อว่าโอกาสหน้าจะได้กลับไปญี่ปุ่นอีกครั้ง(หลายครั้งเหมือนเรา?)

——————————-

เกร็ดเล็กๆ เรื่องราวของฮาจิโกะ น่าสนใจ (ลองไปหาอ่านเพิ่มเติมกันดูนะคะ อาจจะมีน้ำตาซึมก็เป็นได้) …เศร้าจัง !
* เคยสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง ฮาจิโกะ (Hachiko) …
* ปัจจุบัน(ร่าง)หนังและขนของฮาจิโกะ ถูกสตาฟ ไว้ที่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National museum of Nature and Science) ณ สวนอุเอโนะ ส่วนร่างกายและกระดูกนำไปฝังไว้ติดกับหลุมศพเจ้านายของมัน
* ด้วยความดีงามและความซื่อสัตย์ ปัจจุบันจะเห็นอนุสาวรีย์ของฮาจิโกะที่เมืองโอดะเตะ และยังมีรูปหล่ออีกหลายเมืองในญี่ปุ่น
* บ้านเกิดของฮาจิโกะอยู่ ที่เมือง Odate จังหวัด Akita อยู่ในภูมิภาค Tohoku ประเทศญี่ปุ่น
* เมือง Odate น่าสนใจไม่น้อย อยากไปเที่ยวจัง !!

* ส่วนด้านล่างนี้ก็เป็นแผนที่ชิบุยะ ที่เราชอบไปเดินกันค่ะ ปีก่อนๆ (2557-2559) เริ่มต้นเดินไปร้าน Disney Store ถัดไปอีกนิดก็เป็นห้าง MUJI แล้วก็เดินวนไปเรื่อยๆ (ไม่ย้อนกลับ) เข้าซอยนั้น ทะลุไปอีกซอย ซึ่งจะเชื่อมไปยังโซนที่เดินปีนี้ (2560) …

 

 

คลุกคลีอยู่ในวงการสื่อกว่า 26 ปี